รีวิว Slumdog Millionaire (81th)
จามาล มาลิค หนุ่มจากสลัม ที่ตอบคำถามจากรายการ Who Wants to Be a Millionaire? (หรือ เป็นเกมเศรษฐีในบ้านเราสมัยนั้น) มาได้จนถึงข้อสุดท้าย ที่มีเงินรางวัลสูงถึง 20 ล้านรูปี ท่ามกลางความสงสัยของบรรดาคนดูและพิธีกร รวมถึงตำรวจเองก็ยังมาจับเขาไปเพื่อหาคำตอบว่าเขาตอบคำถามถูกมาจนถึงข้อนี้ได้อย่างไร เป็นการโกงหรือไม่ ทำให้ จามาล เลยต้องนึกถึงอดีตที่ผ่านมาของเขา พร้อมทั้งเล่าว่าในช่วงชีวิตต้องผ่านอะไรมาบ้าง ถึงเอาประสบการณ์มาใช้ตอบได้ตั้งแต่ข้อแรกมาจนถึงข้อสุดท้ายนี้
เนื้อเรื่อง รีวิว Slumdog Millionaire (81th)
การดำเนินเรื่องน่าสนใจ แข่งเกมกันไป พร้อม กับ เล่าชีวิตของพระเอก นาม “จามาล มาลิก” กันไป เรื่องราวตั้งแต่เด็กยันโตเป็นหนุ่ม ที่ทำให้เห็นภาพชีวิตอันแสนบัดซบ อินเดียมีสลัมไม่พอ ยังมีมาเฟีย ที่ที่คนจนไร้การศึกษาไปไหนไม่พ้น ต้องติดกับ ของพวกมัน
เรื่องย่อ รีวิว Slumdog Millionaire (81th)
หนังพอจะเอ่ยถึงสิ่งที่ผมคุ้นเคยในอดีตอยู่บ้าง “อมิต๊าบ บาจาน” (Amitabh Bachchan) พระเอกหนังอินเีดียระดับซูเปอร์สตาร์ ชื่อนี้ ใครที่เคยดูหนังอินเดียน่าจะเคยได้ยิน เขาโด่งดังมากในสมัยก่อน ไม่นึกว่าสมัยนี้ ผู้คนก็ยังคงคลั่งไคล้เขาอยู่
สำหรับ Slumdog Millionaire คือหนังที่ควรอย่างยิ่งสำหรับคอหนังสายรางวัล ที่ต้องการพล็อตเรื่องหรือบทอะไรใหม่ แต่ไม่ได้ดูยากขนาดต้องปีนกระไดไปตีความฉากต่างๆ เพราะเรื่องนี้ ทำออกมาได้เรียบง่ายเลย กับ การถ่ายทอดชีวิตเด็กอินเดียคนหนึ่งผ่านประสบการณ์ต่างๆ ที่เป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตจนทำให้เขาสามารถนำสิ่งเหล่ามาเป็นคำตอบของเกมตอบคำถามได้
ด้วยความครบรสและดีในทุกองค์ประกอบของมันก็ทำให้มันคว้ารางวัลมาครองมากมาย ซึ่งหากใครชอบหนังรางวัลดีๆ ในโทนแปลกๆ มีกลิ่นอายเอเชีย แบบ Life of Pi ก็น่าจะชอบเรื่องนี้กว่ามากๆ ดูหนัง
ความสนุกของหนังก็คือการที่เราได้เห็นตัวละครอย่าง จามาล ตั้งแต่เด็ก ที่เราจะได้เห็นทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของเขา ผ่านทางฉากหลังอย่างอินเดีย จนทำให้เราได้ไปสำรวจสภาพสังคมของประเทศ ได้เห็นทัศนคติผู้คน ไปจนถึงในเรื่องวัฒนธรรม ศาสนาความเชื่อ ชนชั้น ได้อย่างเต็มที่ ส่วนนึงเพราะตัวหนังเองไม่ใช่แค่เพียงเป็นงานกำ กับ ของชาวอังกฤษ Danny Boyle เพียงคน
เดียว แต่ยังมีผู้กำ กับ ร่วมชาวอินเดียอย่าง Loveleen Tandan ด้วย มันเลยทำให้หนังเข้าถึงความเป็นอินเดียแท้ๆ ได้เป็นอย่างมาก และสะท้อนความเป็นอินเดียทั้งในด้านที่สวยงาม และในด้านมืดออกมาได้อย่างครบเครื่อง
ในส่วนของจังหวะการดำเนินเรื่องก็ทำออกมาได้สนุกสุดๆ เพราะทุกช่วงชีวิตของ จามาล นี่คือมีเหตุการณ์มาชวนลุ้นตลอด และมีความครบรสมากๆ ทั้งในแง่การผจญภัย ความรัก การฝ่าฟันชีวิต แม้ว่าเรื่องราวหลักๆ ของหนังนั้นจะเป็นโทนค่อนข้างเครียดเมื่อได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของตัวละคร และชีวิตที่ดูแสนรันทด แต่หนังก็ยังสอดแทรกอารมณ์ขันต่างๆ ประกอบ กับ ดูหนังออนไลน์
จังหวะดนตรีตามสไตล์อินเดียที่เข้มข้น พร้อมทั้งคาแรคเตอร์ความเป็นมวยรองของพระเอก ก็ยิ่งทำให้คนดูเอาใจช่วยไป กับ ตัวละครได้มาก จนนำไปสู่ฉากไคลแม็กซ์ที่ต้องลุ้นจนหัวใจแทบวาย กับ การตอบคำถามสุดท้ายของเขา ทำให้เราไม่แปลกใจเลยที่หนังเรื่องนี้ได้รับคำชื่นชมและกวาดรางวัลมาได้มากมายขนาดนี้ ด้วยความสดใหม่ขายไอเดีย ที่ร้อยเรียงเรื่องราวมาได้เป็นอย่างดี
หนังออสการ์ยอดเยี่ยมปีล่าสุดนี้เกือบจะดับและตกลงเหวแล้ว เพราะจะถูกส่งลงเป็นแผ่นก่อนจะลงโรงเสียอีก แต่กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมายิ่งกว่าซินเดอเรลล่าหรือตัวละครเทพนิยายใดๆ แถมยังมาแบบเหนือเมฆ เพราะตอนนี้ราคาหนังสูงมากจนประเทศไทยเองเกือบจะไม่นำมาฉายซะแล้ว เนื่องจากมันราคาแพง เป็นหนังอิน(ดี้)เดียที่จำกัดโรงฉาย ไม่คุ้มลงทุน ทั้งยังแนวทางหนังก็
ไม่ถูกปากคนไทยนัก แต่ด้วยกระแสด้านบวกล้นหลามจากปากต่อปาก นักวิจารณ์ และสามารถคว้ารับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากลูกโลกทองคำและออสการ์ Slumdog Millionaire จึงมีโอกาสมาให้คนไทยลิ้มรสจนได้ หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องสั้นที่ตีแผ่สังคมอินเดียผ่านเรื่องราวของจามาล มาริค เด็กหนุ่มวัย 18 หน้าตาฉลาด(น้อย) ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่มีพื้นเพมาจาก
สลัมมุมไบ แต่กลับพลิกผันได้มาเล่นเกมส์ในรายการ Who Wants To Be A Millionaire (หรือรายการเกมส์เศรษฐีบ้านเรานั่นแหละครับ) จามาลเหลืออีกเพียงหนึ่งคำตอบที่ถูกจากหนึ่งคำถามก็จะคว้าเงินรางวัลสูงสุด 20 ล้านรูปี ด้วยลักษณะและพื้นเพความเป็นมาของเขา ทำให้เพรม คูมาร์พิธีกรของรายการคิดว่าจามาลโกงเกมส์การแข่งขัน ช่วงพักรายการก่อนถ่ายต่อ
คำถามสุดท้าย ตำรวจจึงนำตัวเขาไป(ทรมาน)สอบสวนเค้นความจริง เด็กหนุ่มจากสลัมจึงเล่าเรื่องทุกอย่างในอดีตที่เป็นกุญแจไขสู่คำตอบให้ฟัง ชีวิตความเป็นอยู่ของจามาล สะท้อนภาพลักษณ์ สังคม บ้าน(ป่า)เมือง(เถื่อน)ของเขามาโดยตลอด เช่น ฉากที่แม่จามาลถูกฆ่าตาย เกิดจากความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างฮินดูและมุสลิม ที่ฝ่ายแรกต้องการไล่ฝ่ายหลังออกนอกประเทศ ดูหนัง 4k
ซึ่งความไม่ลงรอยนี้ก็สืบเนื่องมานับพันปีเห็นจะได้ หรือฉากที่จามาล กับ ซาลิมพี่ชายอจมป่วน และเด็กสาวที่จามาลรัก ลาติกาต้องตกอยู่ในเงื่อมมือแก๊งจับเด็กไปขอทาน อย่างที่รู้ๆกันดีว่า อินเดียติดอับดับประเทศที่มีขอทานเยอะสุดของโลก หรือกระทั่ง
พฤติกรรมการดูถูกของพิธีกรรายการต่อจามาลก็ดูช่างไม่ต่าง กับ การแบ่งชนชั้นวรรณะในสังคมอินเดีย เป็นต้น แต่ความหนักอึ้งของเรื่องกลับไม่ได้ทำให้หนังดูตึงเครียดเกินไป หนังผ่อนคลายด้วยการแทรกมุขตลก และความตื่นเต้นอยู่เสมอ จนลืมไปว่าความรันทด ยากจนข้นแค้นแสนลำบากลำบนของจามาลมันหนักหนาสาหัสเอาเรื่องทีเดียว
ส่วนตัวผมชอบที่หนังตั้งคำถามว่า How did he do it? A. He cheated B. He’s lucky C. He’s genius D. It’s written สร้างปมให้เราคิด และคาดหวังว่าจะตอบถูกหรือไม่ ประหนึ่งว่าเราตกอยู่สถานการณ์เดียว กับ จามาล ที่กำลังเล่นเกมส์เศรษฐีอยู่ แล้วคำตอบก็จะค่อยๆเฉลยเมื่อเรื่องราวดำเนินไปจนถึงจุดหมายปลายทาง เนื้อหาโดยหลักแล้วเป็นเรื่องของตามหารักที่หายไปของตัวเอก และเป็นสาเหตุสำคัญที่เขาต้องมาเล่นเกมส์เศรษฐีนี้ จามาลพลัดพราก กับ ลาติกาสาวคนรักครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็พยายามสู้ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพื่อรักแท้ หนังสลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบันได้ลงตัวน่าสนใจ โดยใช้เรื่องเล่า ดูหนังออนไลน์ 4k
เหตุการณ์ที่ดำเนินในอดีตมาตอบโจทย์ ทั้งยังสร้างความผูกพันตัวละคร กับ คนดูให้เอาใจช่วยลุ้น และบอกที่มาที่ไปได้ลงตัวสอดคล้อง กับ ปัจจุบัน ส่วนนี้ต้องยกนิ้วโป้งให้ กับ บทหนังดัดแปลงที่สมบูรณ์และฝ่ายตัดต่ออันยอดเยี่ยม แต่ในความดีเด่นนั้น
มันก็มีผลร้าย ที่สุดท้ายแล้วเหมือนว่าเรากำลังดูรายการสู้แล้วรวย ซึ่งตอนจบมักจะลงเอยตามชื่อรายการ เป็นข้อเสียอย่างนึงที่ผมเห็น คือ คาดเดาเรื่องได้ง่าย (ผมเดาออกอยู่คนเดียวหรือเปล่าก็ไม่ทราบ…อิอิ) ที่ไม่ได้สร้างความเซอร์ไพรส์ ประหลาดใจอะไรให้ผม เพราะเรื่องราว (D.It’s written) เหมือนถูกเขียนไว้แล้ว การเดาเรื่องออกก็ไม่ได้แปลว่าผมชำนาญการแต่อย่างใด แต่เป็นสิ่งที่นักดูหนังจะสัมผัสได้เอง
”ไม่มีใครโง่หรือฉลาด มีเพียงแค่รู้หรือไม่รู้เท่านั้นเอง” คำพูดนี้ได้รับการยืนยันในหนังด้วย เมื่อตอนครั้งที่เจอคำถามง่ายดายที่ใครๆก็รู้แต่จามาลกลับตอบไม่ได้ พอเป็นคำถามที่คนอื่นคิดว่ายาก เขากลับตอบได้อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย เป็นข้อคิดที่ดีว่า รีวิวหนัง
อย่าดูถูกใคร แต่ละคนล้วนเจอประสบการณ์ที่แตกต่างกัน บางคนอาจรู้สึกง่ายในเรื่องที่อีกคนกลับบอกว่ายาก ความดีงามจนล้นเอ่อของหนังในทุกด้าน ช่วยบดบังข้อด้อยอันน้อยนิดให้เรามองข้ามไป เพราะหนังถึงพร้อมด้วยสาระและ ความสนุก ดูแล้ว
รู้สึกดี และ ประทับแน่นอน และ นี่เป็นผลงานสร้างลำดับที่เก้าของแดนนี่ บอยล์ ผู้กำ กับ ขวัญใจเด็กแนว (ผมเองก็ติดตามผลงานเขามาตลอด แต่ไม่ยักจะแนวเท่าไหร่) ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงราวัลจากทุกสถาบันมากกว่าทุกเรื่องที่เขาเคยทำมา