รีวิว Pacific rim ภาค 1

 

Pacific rim โย้ววววววววววว สวัสดีทุกโคนนนนนน วันนี้ก็กลับมาอยู่กับ แอดบี เช่นเคย วันนี้เรามาเอาใจคนรักหนัง แนวหุ่นยนต์ กันดีกว่า แค่ดูรูปก็คงรู้กันแล้ววันเรื่องอะไร แอดกรี๊ดพระเอกมากก ทั้งหล่อทั้งเท่อ่ะคุณเธอออ ลองไปอ่านรีวิวกันนะ

และแล้ว หนังฟอร์มยักษ์อีกเรื่องที่รอคอยมาสักพักใหญ่ก็ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ‘Pacific Rim’ งานระดับพักผ่อนของท่านผู้กำกับฯ อย่าง Guillermo del Toro คนที่เคยกำกับฯ มาแต่งานระดับขึ้นหิ้ง ทั้ง Hellboy, Pan’s Labyrinth, Cronos, Mimic และ The Devil’s Backbone หายหน้าหายตาไปจากงานกำกับฯ เสียหลายปี วันนี้ กลับมาด้วยงานที่ไม่หนักแต่ใหญ่ ปล่อยคลิปออกมามาย ล้วนแต่สร้างความอยากให้บังเกิดในใจทั้งนั้น!

รีวิว Pacific rim ภาค 1

Pacific Rim แปซิฟิค ริม สงครามอสูรเหล็ก
ภาพจากหนังมนุษยชาติผจญไคจู ใน แปซิฟิค ริม
หลังนำ เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังขนาดยาวของ ‘Pacific Rim’ มาให้อ่านกันเมื่อวันก่อน วันนี้ ก็ได้ชมภาพยนตร์ตัวจริงกันแล้ว แถมได้ชมในแบบ IMAX เสียด้วย ไม่ต้องรอชมโฆษณาอะไรทั้งสิ้น เริ่มต้นมาก็อลังการกันเลยทีเดียว รู้สึกได้ทันทีว่า เรื่องนี้มันเหมาะเหม็งที่จะดูในโรง IMAX 3D จริงๆ อะแหละ

เรื่องราวเล่าสั้นๆ ได้ประมาณว่า มันมีสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ขึ้นมาจากใต้มหาสมุทร คอยทำลายล้างมนุษย์และโลก มนุษยจึงสร้างหุ่นยักษ์ที่มีมนุษย์ควบคุมอยู่ข้างในขึ้นมาเพื่อปราบ ฟังดูแล้วเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นใช่มั้ยล่ะครับ ถ้าคุณไปดูก็จะพบว่า ผู้กำกับฯ คนนี้ท่าทางจะดูการ์ตูนญี่ปุ่นเยอะทีเดียว

รีวิว Pacific rim ภาค 1

“เจ้าสัตว์ประหลาดแกตายซะเถอะ” นี่เป็นคำพูดที่หลุดออกมาจากความทรงจำของเด็กผู้ชายในวัยเพิ่งสิ้นกลิ่นน้ำนม ของขวัญที่แม่มอบให้ในวันนั้นยังคงคุกกรุ่นอยู่ในวันนี้ หุ่นประกอบที่เราเลือกจับมาหยิบต่อสู้กับเจ้าสัตว์ประหลาดยังระรานอยู่ในความทรงจำครั้งเยาว์วัย ไม่มีช่วงเวลาใดที่มอบความสุขให้เท่าโลกจินตนาการที่เราปั้นแต่งขึ้นมาแล้วดำรงอยู่ด้วยตัวของมันเองตลอดระยะที่เรารับบทผู้สร้างสรรค์ เราเลือกแบ่งฝักฝ่ายให้กับหุ่นประกอบของเรา เราใช้สังเวียนที่นอนเป็นที่ต่อสู้เติมเต็มจินตนาการของเรา คือภาพยนตร์ที่มอบพลังโหยหาอดีตหุ่นประกอบของเรารวมถึงเจ้าสัตว์ประหลาดให้เป็นจริง แม้จะผ่านเวลานับสิบปีแต่เราก็ยังเลือกข้างในฝ่ายธรรมะ

รีวิว Pacific rim ภาค 1

ที่ต้องทำลายเจ้าสัตว์ประหลาดให้ซากสิ้นเพื่อปกป้องโลกของเรา แม้เรื่องราวในภาพยนตร์ได้ทำลายจินตนาการของเราลงให้เหลือแต่ความสมจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ อีกทั้งอำนาจอาญาสิทธิ์ที่เราเคยได้รับมอบในจินตนาการก็ไม่มีหลงเหลืออีกแล้วในวันนี้ เพราะมันถูกสร้างและแต่งเติมโดยผู้กำกับ กิลเลอร์โม่ เดอโทโร่ ที่เราไม่มีสิทธิ์แต่งเติมใดๆนอกจากเฝ้าดู ภาพยนตร์ใช้เวลาเปิดเรื่องโดยให้น้ำหนักไปกับ ราลีห์ เบ็กเก็ตต์(ชาลี ฮันแนม) คนบังคับหุ่นที่ชะล่าใจทำให้สัตว์ไคจูมาทำร้ายจนสูญเสียพี่ชายและไม่สามารถกลับมาร่วมงานคู่กับใครได้อีก จนกระทั่งพบกับหญิงญี่ปุ่นมาโกะ โมริ(ริงโกะ คิคูจิ) ที่มีภูมิหลังไม่ดีเกี่ยวกับความทรงจำเช่นกัน

 

รีวิว Pacific rim ภาค 1

ถ้าเล่าให้ยาวขึ้นไปอีก ก็ต้องเพิ่มเติมเสริมทัพเข้าไปว่า พวกสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์นี้ผ่านเข้ามาจากต่างดาวทางรอยแยกของกาลเวลาที่อยู่ ณ ใต้ทะเลลึกของมหาสมุทรแปซิฟิค เจ้าตัวสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ เขาเรียกว่า “ไคจู” (เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลตรงๆ เลยว่า สัตว์ประหลาด) ยิ่งนับวันก็ยิ่งมาบ่อยขึ้นและมีพลังมากขึ้นๆ ทุกที อาวุธอย่างเครื่องบินรบ กลายเป็นอาวุธธรรมดาๆ ที่ต่อกรอะไรไม่ได้อีกต่อไป จึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกประเทศที่ติดกับแปซิฟิคสร้างกองทัพหุ่นยนต์ยักษ์ขึ้นมาเพื่อทำสงคราม เขาเรียกพวกมันว่า “เยเกอร์” เป็นภาษาเยอรมันอันแปลว่า นักล่า

หุ่นยนต์พวกนี้ต้องมีมนุษย์ควบคุมอยู่ข้างใน และเพื่อความแข็งแกร่ง เราจะพึ่งพามนุษย์คนเดียวไม่ได้ ต้องใช้อย่างน้อย 2 คนร่วมประสานผ่านการ “ล่อง” ไปด้วยกัน มนุษย์ทั้งสองจะเป็นเหมือนสมองคนละซีกของหุ่น และจะได้เห็นและรู้สึกในสิ่งที่อีกคนพบและนึกคิดด้วย

แต่เมื่อเป็นมนุษย์ มันย่อมไม่มีคำว่าเพอร์เฟ็กต์ ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ มันย่อมจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันจึงนำพามาได้ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว

เดล โตโร เก่งนักในการผสานเรื่องราวที่ใช้แอ็คชั่นในระดับสูงแต่ไม่ทิ้งปมดราม่าเกี่ยวกับความรู้สึกของมนุษย์ ทำให้หนังมีความสนุกลุ้นในช่วงของมัน ขณะเดียวกันมีส่วนผสมของความดราม่าเจือปนเข้ามาเป็นช่วงๆ และมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะพาเนื้อเรื่องให้ดำเนินไป แถมเขายังเลือกจะให้หลายๆ ชาติบนโลกร่วมกันแชร์ภารกิจนี้ มากกว่าหนังบางเรื่องที่เลือกจะให้เพียงอเมริกาเท่านั้นที่ถูกเชิดชูให้เป็นพระเอก ในหนังจะมีทั้งหุ่น ‘Gipsy Danger’ จากสหรัฐฯ, ‘Crimson Typhoon’ จากจีน ‘Cherno Alpha’ จากรัสเซีย และ ‘Striker Eureka’ จากออสเตรเลียเรื่องราวใน ‘Pacific Rim’ อาจจะไม่ได้ใหม่จ๋า แต่เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันนี่แหละ

ที่ทำให้เรื่องราวมัน “มีอะไร” มากกว่าที่จะดูแล้วก็จบๆ กัน ขณะที่ดนตรีก็อย่างเพราะจนหลายคนต้องขวนขวายหามาฟังหลังดูหนังจบเพียงแค่สองนักขับเยเกอร์ของสหรัฐฯ นาม ‘Gipsy Danger’ ก็มีสีสันแล้ว เมื่อ เรลีห์ เบคเก็ต (Charlie Hunnam) น้องชายของพี่ที่เคยถูกไคจูฆ่าไปต่อหน้าต่อตาในภารกิจวันนั้น ความหลังมันยังฝังใจอยู่ไม่ลืม กับหญิงสาวชาวญี่ปุ่น มาโกะ โมริ (Rinko Kikuchi) ที่มีความหลังอันน่าสะเทือนใจในอดีตที่ผลักดันให้เธอเลือกจะมาเป็นผู้ควบคุมหุ่นเยเกอร์ ปมในใจของทั้งสองคนจะพาภารกิจสำคัญของมวลมนุษยชาติให้หักเหไปเช่นใด อย่าให้ต้องเล่าเลยนะครับ

สัตว์ประหลาดที่ขึ้นมาจากทะเลลึก ออกมาต่อสู้กับหุ่นยักษ์ที่มนุษย์ร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขา ดูแล้วไม่คิดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นคงเป็นไม่ได้จริงๆ ก็ขนาดนักแสดงยังเลือกที่จะเอาคนญี่ปุ่น (ผมหมายถึง Rinko Kikuchi) มาร่วมเล่นเลย

ความรู้สึกหลังดูจบ

ไซไฟหรือแฟนตาซี

ภาพยนตร์ใช้วิธีพ่นคำว่าวิทยาศาสตร์มากมายเพื่อให้เรื่องเกิดความสมจริงซึ่งถือเป็นมาตรฐานของหนังฮอลลีวู้ดที่ทำให้หนังหลายเรื่องที่มีเนื้อแท้เป็นนิทานเรื่องเล่าแบบแฟนตาซีถูกดัดแปลงให้เข้าใกล้ความจริงมากขึ้นด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเรื่องนี้ในแง่เรื่องราวที่เราเห็นมีนิมิตรหมายเป็นแฟนตาซีอยู่มากพอสมควรอาจเพราะเรารู้สึกได้ว่าหนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากญี่ปุ่นอยู่หลายส่วน ผู้เขียนรู้สึกว่ายิ่งพยายามมากเกินไปเท่าไรยิ่งทำให้เรื่องราวมันเสียความบริสุทธิ์ของตัวมันเองมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งมันก้ำกึ่งระหว่างความเป็นหนังไซไฟก้ำกึ่งกับหนังแฟนตาซี จนอาจพูดได้ว่ามันไม่ดีเด่นสักทาง

แอคชั่นแบกหนังทั้งเรื่อง

ในแง่เรื่องราวหรือความหนักแน่นของบทก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ที่ทางของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยเพราะสิ่งที่เป็นความโดดเด่นคือฉากแอคชั่นหุ่นยักษ์และหุ่นสร้าง 3 มิติ ที่ประเคนใส่ผู้ชมตลอดเรื่อง การตัดต่อฉับไวถูกระดมใส่เข้ามาไม่หยุดยั้ง การตัดสลับหนักหนาสาหัสเพราะต้องเปลี่ยนภาพจากตัวหุ่นเข้ามาสู่ผู้บังคับบัญชารวมถึงสถานการณ์ของการต่อสู้ด้วยจึงทำให้การเลือกช็อตมานั้นมหาศาลถึงขึ้นระรานตาหรือมองแทบไม่ทัน

 

ข้อสังเกตบางประการ

สิ่งที่น่าสงสัยสำหรับประเด็นนี่คือ ทำไมตัวไคจูมักออกมาในช่วงที่ฟ้าสางหรือกลางค่ำกลางคืนที่มืดมิดจนมีปัญหาในความชัดเจนที่ทำให้ผู้ชมไม่ได้รับอย่างเต็มรูสองตา จนผู้เขียนจำไม่ได้ว่ามีฉากไหนหรือไม่ที่เราเห็นฉากต่อสู้เด่นชัดจนเห็นรายละเอียดของหุ่นที่ทุ่มเงินไปมหาศาลอย่างมากมายได้ประจักษ์ชัด เพราะเราถูกความมืดปกคลุมจนแทบจะต้องใช้จินตนาการรับชม หากเป็นความตั้งใจของการออกแบบงานสร้างเพื่อเรียกร้องจินตนาการก็ถือว่าจัดเต็มได้ดี แต่ผู้เขียนเคยได้ยินมาว่าการที่ฉาก Cg นั่นต้องอยู่ในสภาพมืดเพื่อป้องกันเห็นรอยแผลจากงานสร้างที่ทำหน้าที่ไม่ได้เต็มประสิทธิภาพมากนัก

ปัญหาอีกประการที่ผู้เขียนรู้สึกตะหงิดใจตลอดเวลาการรับชมคือ ขณะที่ ราลีห์ เบ็กเก็ตต์ กับ มาโกะ โมริ เข้าคู่แท็คทีมบังคับหุ่นกันในช่วงสำคัญของเรื่อง หรือแทบจะตลอดเรื่อง ทำไมเราไม่เห็นการบังคับหุ่นของมาโกะ ที่มากพอ เห็นแค่เฉพาะตัว ราลีห์ สั่งการเท่านั้น นี่คือความต้องการที่เราจะเห็นแต่เราไม่ได้รับการตอบสนองที่เพียงพอ จนเสมือนว่ามาโกะไม่ได้ถ่ายทำฉากเหล่านั้นด้วยซ้ำไป นี่ทำให้เรารู้สึกเสมอว่ามันมีรายละเอียดงานสร้างๆที่ขาดๆเกินๆเสมอในภาพยนตร์เรื่องนี้

ผู้เขียนให้ความสำคัญจับผิดละเล็กละน้อยเพราะฉากเหล่านั้นที่กล่าวไปคือหัวใจของภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ เพราะอย่างที่แซ่ซ้องไปแล้วว่า เรื่องราวหรือบทของภาพยนตร์ไม่มีส่วนใดให้น่าติดตามหรือดึงดูดความสนใจกระทั่งเก็บมาเขียนต่อได้ยาวๆเลย จะมีความน่าสนใจในส่วนเรื่องของการแชร์ความทรงจำร่วมกันในการบังคับหุ่นซึ่งเราเห็นว่าภาพยนตร์ใช้เวลาเน้นน้ำหนักไปกับตัวมาโกะมากมาย ในความทรงจำยามเด็กซึ่งเป็นการสร้างความน่าสนใจของภูมิหลังของเธอ แต่หาใช่เพื่อทำให้เธอเรียนรู้ที่จะผ่านไปหรือไม่แต่อย่างใดเพราะต้องการเพิ่มน้ำหนักให้กับความเป็นคนดีของผู้การสแตร๊คเกอร์(ไอดริส เอลบา)เสียมากกว่านั่นเอง ดูหนังฟรี

 

หนังเรื่องนี้ ‘Pacific Rim’ เท่าที่ดูนั้น งานด้านภาพถือว่าเข้าขั้นเยี่ยมทีเดียว ซีจีที่ออกมาสวยคมสมจริง อีกครั้งภาพในลักษณะ 3 มิติที่มีมิติและสอดรับไปกับเรื่องราว อาจจะมีบ้างบางช็อตที่รู้สึกว่าดูไม่ทัน เพราะมันเป็นฉากการต่อสู้ในเวลากลางคืนเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เป็นหนังที่สมควรจะทัศนาในแบบ IMAX 3D จริงๆ

ก็อย่างที่บอกแหละครับ อลังการซีจี 3D เลิศ!

ชื่อภาพยนตร์: Pacific Rim / แปซิฟิค ริม สงครามอสูรเหล็ก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Guillermo del Toro
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Travis Beacham (screenplay), Guillermo del Toro (screenplay), Travis Beacham (story)
นักแสดงนำ: Charlie Hunnam, Idris Elba, Rinko Kikuchi, Charlie Day, Burn Gorman, Ron Perlman
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
ความยาว: 131 นาที
ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Warner Bros., Legendary Pictures
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 11 กรกฎาคม 2556

ดูหนังใหม่ได้ที่ ดูหนังใหม่
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ facebook 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *