รีวิว The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ

 

รีวิวหนังฮิต  โย้วววว ทุกคน วันนี้ ก็มาอยู่กับแอด บี คนเดิม เช่นเดิม หลังจากแอด ไม่ได้ลงรีวิวใน Facebook เลย วันนี้แอดจะลงเพิ่มให้เยอะๆเลยน้าา แทนค่าเสียเวลา ที่ใครหลายๆคนรอ ดีมั้ย เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วกัน ไปอ่านรีวิวกันเลยดีกว่า
เครดิตขึ้น ยังยิ้มไม่หุบ เลยทีเดียว ยิ้มให้ในความเจ๋งของบท ความยอดเยี่ยมของนักแสดง เนื้อเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ และความมีสไตล์ของหนังเรื่องนี้ นี่คือ The Gentlemen กับกราบใจคนคิดชื่อไทยจริงๆ สุภาพบุรุษมาหากัญ เรื่องราวของเจ้าพ่อกัญชาแห่งเกาะอังกฤษ ที่พร้อมจะวางมือเพราะถึงจุดอิ่มตัวอยากไปใช้ชีวิตกับลูกๆ และจะขายอาณาจักรนี้ แต่เมื่อข่าวหลุดออกไป จึงเกิดเป็นเรื่องวุ่นๆ ศึกแย่งชิงอาณาจักรกัญชานี้
รีวิว The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ
The Gentlemen คือผลงานลำดับที่ 11 ของ Guy Ritchie ที่กลับมาทำกำกับและเขียนบทงานที่ถนัดอีกครั้ง หลังจากที่หลุดแนวไปซะหน่อยใน Aladdin (2019) เอาจริงๆ เรื่องนั้นถ้าไม่บอกว่า Guy Ritchie เราไม่รู้เลยจริงๆ แต่ครั้งนี้เขากลับมาทำหนังแนวอาชญากรรม หักเหลี่ยม เฉือนคม เหมือนกับผลงานแจ้งเกิดของเขาอย่าง Lock, Stock and Two Smoking Barrels (1998), Snatch (2000) ถ้าใครเคยดู ก็จะเข้าใจว่า The Gentlemen เป็นยังไง เพราะมันคือแนวแบบนั้นแหละ

รีวิว The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ

รีวิว The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ

 

มาเริ่มกันที่ความน่าสนใจแรกของหนังเลย กับตัวละคร คือถ้าตัดชื่อผู้กำกับ แนวหนัง เนื้อเรื่องออกไป แค่ตัวละครก็อยากดูแล้ว มีทั้ง Matthew McConaughey, Charlie Hunnam, Michelle Dockery, Jeremy Strong, Colin Farrell, Henry Golding และ Hugh Grant หนังมีคาแรคเตอร์แต่ละตัวละครที่ชัดเจนมาก บทเปิดตัวของแต่ละคนยิ่งการันตี และเป็นเครื่องบ่งบอกความเป็นตัวตนของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี แถมยังมีการแบ่งบทที่ดีอีกต่างหาก อีกอย่างคือความมีสไตล์ การแต่งตัวของตัวละครที่เท่ชะมัด คือแต่ละคนยังกะเดินแฟชั่นวีคยังไงยังงั้น
ผู้กำกับ “กาย ริตชี” ได้หวนกลับมาสู่หนังแนวถนัดมือของเขาอีกครั้ง หลังจากที่เบนเข็มท้าทายอาชีพด้วยการไปกำกับ “Aladdin” ให้กับดิสนีย์ จนประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามมาแล้ว ครั้งนี้ก็ยังกลับมาสู่ “หนังสายผู้ชาย” เป็นการรวมพลของเหล่านักแสดงชายชั้นแนวหน้าของวงการใน “The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ” กับชั้นเชิงในการเล่าเรื่องอย่างมีสไตล์อีกเช่นเคย กลายเป็นความสนุกระดับมหากาฬอีกระลอก
รีวิว The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ
เป็นหนังที่เห็นโทนสีของโปสเตอร์หนังครั้งแรกแล้วนึกว่าหนังสปินออฟของ Kingsman ซะเฉย ๆ แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ไปในแนวแอคชั่นเท่ ๆ แบบนั้นเลย เพราะนี่เป็นหนังแอคชั่น อาชญากรรมที่มีความตลกร้ายแบบร้ายกาจ ซึ่งหนังก็จัดเต็มฉากโหด ๆ ให้เราได้เห็นกันบ้าง ทั้งผ่านฉากแอคชั่น และฉากตลก แบบโหด ๆ
หนังมีความกวนตีนสูงมาก และอาศัยความตกกระไดพลอยโจนสูงมากด้วย แต่แม้จะใช้ความบังเอิญเยอะ แต่ผมก็ไม่รู้สึกขัดใจนะ กลับกันผมมองว่ามันทำให้หนังบันเทิงมาก  เพราะท่ามกลางความโหดร้ายของฉากอาชญากรรม มันก็มีความอลเวงอลวน ของตัวละครต่าง ๆ ที่แบบ…คิดได้ยังไง ว่าจะให้หนังมีฉากนี้ แล้วความบ้าบอ (ชมนะ) ของหนังเรื่องนี้ พาเราไปสุดมาก บางอย่างที่เราคิดว่าเดาได้แล้ว แต่หนังก็พร้อมจะมีลูกล่อลูกชนให้เราลุ้นไปกับมันตลอดเวลา

สรุปหนังโดยรวม

โดยรวมนี่เป็นหนังอีกเรื่องที่ชอบมาก ใครชอบหนังมาเฟียหักเหลี่ยมเฉือนคมกัน หรือหนังตลกร้าย เรื่องนี้คือแนะนำสุด ๆ เป็นหนังที่มีความจัดจ้าน และลงตัวมาก ๆ
การประชันบทบาทของหนุ่มๆ ที่ได้อรรถรสเป็นที่สุด เรื่องราวอันซับซ้อนแต่ไม่ยากเกินจะเข้าใจของวงการมืดที่ซ่อนตัวอยู่บนเกาะอังกฤษ มิกกี้ เพียร์สัน เจ้าพ่อกัญชาผู้ทรงอิทธิพล กำลังจะตัดสินใจวางมือจากวงการ แต่การผละตัวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาตกเป็นเป้าหมายที่นำพาไปสู่ชนวนความขัดแย้งและหักเหลี่ยมกัน ระหว่างแก๊งมาเฟีย, องค์กรยาเสพติด, สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ และเหล่าไฮโซชนชั้นสูง ที่ล้วนแต่เป็นเครือข่ายธุรกิจมืดของเขา
เรื่องนี้กลายเป็นหนังที่มีลายเซ็นและเอกลักษณ์โดดเด่นของ กาย ริตชี ได้กลิ่นอายจากผลงานเก่าๆ ของเขา ไม่ว่าจะเป็น “Snatch” หรือ “Lock, Stock…” ที่มีความดิบเถื่อนแบบกลุ่มแก๊งสไตล์ฮูลิแกนส์ที่เคยสร้างชื่อให้กับเขามาก่อน แต่ยังเสริมด้วยชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่มีช่วยกระตุ้นอรรถรสได้เป็นอย่างดี ร่วมด้วยทีมนักแสดงที่ช่วยเติมเต็มให้หนังทั้งเรื่องได้อย่างสมบูรณ์
แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ กับมาดเจ้าพ่อค้ากัญชา
ขณะเดียวกันก็ยังกระจายบทให้กับนักแสดงได้อย่างทั่วถึง “แมทธิว แม็คคอนาเฮย์” แม้จะรับบทนำที่สุด แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง เพราะยังมี “ชาร์ลี ฮันแนม” ที่เป็นเหมือนมือขวาของเจ้าพ่อ บทของเขาได้เข้ามาช่วยเสริมและเติมเต็มความบันเทิงของหนังได้ดียิ่งขึ้น
หนังมาพร้อมกับบทพูดและไดอะล็อกพรั่งพรูออกมาตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะช่วงประมาณ 30 นาทีแรกจะค่อนข้างชวนหลับ เพราะเต็มไปด้วยการเกริ่นเข้าเรื่องด้วยคำบอกเล่าต่างๆ แต่หากก้าวข้ามผ่านจุดนั้นไปได้ พอสตาร์ทเครื่องติด หนังก็เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกครบเครื่องไปตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว
ฮิวจ์ แกรนท์ ขโมยซีนในหนังเรื่องนี้มากๆ
บทหนังอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่เพราะการเชือดเฉือนหักเหลี่ยมคนของสุภาพบุรุษแต่ละฝ่าย ผลักดันทำให้หนังฉายเสน่ห์ออกมาได้เรื่อยๆ อย่างประสบความสำเร็จ
นักแสดงคนอื่นๆ ก็เจิดจรัสเช่นเดียวกัน “เฮนรี่ โกลดิง” มาพร้อมกับบทบ้าระห่ำที่เขาก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี “โคลิน ฟาร์เรล” กลายเป็นตัวละครที่เสริมเข้ามาอย่างถูกที่ถูกทาง แต่ตัวละครที่แย่งซีนได้สุดๆ คงต้องยกให้ “ฮิวจ์ แกรนท์” ที่เป็นเหมือนตัวการของเรื่อง และขับเคลื่อนหนังทั้งเรื่อง แม้จะให้การแสดงธรรมดาๆ แต่กลับมีเสน่ห์เหลือหลาย
The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ แม้จะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักอึ้งและเข้มข้น แต่ปรากฏว่าการเล่าเรื่องและนำเสนอของหนังได้ทำให้ถูกมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นหนังเชือดเฉือนหักเหลี่ยมที่สนุกอีกเรื่อง และน่าจะถูกใจคอหนัง…โดยเฉพาะคุณผู้ชายรักความสะใจ ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานมีชั้นเชิงตามแบบฉบับ กาย ริตชี ที่ดูแล้วจะติดใจได้ไม่ยาก
1. กาย ริตชี กลับมาทำหนังแนวที่เขาถนัด ใครที่คิดถึงหนังสไตล์แก๊งสเตอร์, มาเฟีย, ฮูลิแกนส์ แบบอังกฤษๆ เรื่องนี้จะทำให้คุณฟินได้ไม่ยาก
2. ทีมนักแสดงของหนังคือที่สุด แมทธิว แม็กคอนาเฮย์, ชาร์ลี ฮันแนม, โคลิน ฟาร์เรล, เฮนรี่ โกลดิง หรือ ฮิวจ์ แกรนท์ จะมีโอกาสแค่ไหนที่จะได้มารวมตัวกันขนาดนี้
3. บทที่มีสไตล์และชั้นเชิงในการหักเหลี่ยมเฉือนคมทำออกมาได้ดี โดยเฉพาะช่วงท้ายของหนัง ที่แทบจะนั่งไม่ติดเบาะ หักมุุมไปมาอย่างได้อรรถรสสุดๆ
4. เหมือนกับหลายๆ เรื่อง กาย ริตชี ยังคงใช้สไตล์ทำงานเขียนบทและกำกับเอง เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเข้าถึงอารมณ์ของหนัง และสร้างสรรค์ออกมาได้ตรงประเด็น
5. หากเป็นแฟนหนัง ฮิวจ์ แกรนท์ ก็น่าจะชอบและประทับใจเขากับหนังเรื่องนี้ เพราะเขาคือตัวขโมยซีนที่สุดของเรื่อง และยังเป็นตัวละครสำคัญที่สุดอีกด้วย
หนังอาศัยวิธีการเล่าเรื่องราวผ่านบทสนทนาระหว่างเรย์และแฟลตเชอร์ (แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทั้งหลายจะเกิดขึ้นจากจินตนาการของแฟลตเชอร์ซะมากกว่า) ซึ่งผู้ชมจะได้ไปทำความรู้จักจุดเริ่มต้นธุรกิจของมิกกี้ ตั้งแต่เริ่มเข้ามาในธุรกิจกัญชา การไต่เต้าสู่การเป็นผู้ครองตลาด วิธีการบริหารจัดการธุรกิจสีเทา การพึ่งพาอาศัยชนชั้นสูงในสังคมเพื่อการเติบโตและเป็นหลักประกันในธุรกิจ แต่เมื่อหนังนำเสนอจุดพลิกผันของเรื่องให้ผู้ชมเห็นตั้งแต่แรกว่า เกิดความวุ่นวายอะไรขึ้นเมื่อมิกกี้ตัดสินใจจะวางมือจากธุรกิจของตัวเอง ปมปริศนาดังกล่าวได้ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามว่าเหตุการณ์อิรุงตุงนังทั้งหมดทั้งมวล นำไปสู่บทสรุปดังกล่าวได้อย่างไร
ถึงแม้หนังจะชื่อ The Gentlemen อันสามารถแปลตรงตัวว่า “สุภาพบุรุษ” แต่บรรดาวีรกรรมของตัวละครแต่ละคนในเรื่อง ไม่ว่าจะหล่อ เท่ ราศีจับแค่ไหน เมื่อพวกเขาต้องเลือกทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการแล้ว ดูเหมือนว่าทุกคนเลือกที่จะทำทุกวิถีทาง โดยไม่สนใจความผิดชอบชั่วดี หรือความเป็นสุภาพบุรุษที่ต้องให้เกียรติผู้อื่นสักเท่าไหร่ อาทิ การติดสินบนเด็กวัยรุ่นอันธพาลข้างถนนของเรย์ การลอบตีซี้ภรรยามิกกี้อันเป็นทางผ่านเพื่อเข้ามาคุยธุรกิจของดรายอาย (เฮนรี่ โกลดิ้ง) โค้ชค่ายมวย (โคลิน ฟาเรล) ที่ต้องวางหัวโขนเพราะนักมวยในสังกัดตัวเองไปก่อวีรกรรมบุกฟาร์มกัญชาของมิกกี้กลายเป็นคลิปดังในโลกออนไลน์ เป็นต้น
สิ่งที่ The Gentlemen ได้นำเสนอออกมาคือ ต่อให้เราจะเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมแค่ไหน เมื่อเราต้องต่อสู้เพื่อรักษาธุรกิจ ความรัก สิ่งที่เราศรัทธาแล้ว นิยามของคำว่า “ศักดิ์ศรี” เราอาจจะต้องวางมันลงชั่วครั้งชั่วคราว (หรือตลอดไป) ก็เป็นได้
หนังเต็มไปด้วยไดอะล็อกและบทคำพูดของตัวละครที่สาธยายออกมาตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะ 30 นาทีแรกของหนัง แต่หากก้าวผ่านไปได้ หลังจากนั้นคือความสนุก
หนังเรื่องนี้มีหลายฉากที่มีความรุนแรงและแสดงออกถึงความรุนแรง หลายๆ ฉากแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ไม่ยังเหมาะสมกับเด็กและเยาวชน
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง “The Gentlemen”
ผู้สร้าง: มิราแมกซ์
จัดจำหน่าย: สหมงคลฟิล์มฯ
ผู้กำกับ: กาย ริตชี
บทภาพยนตร์: กาย ริตชี
นำแสดงโดย: แมทธิว แม็กคอนาเฮย์, ชาร์ลี ฮันแนม, โคลิน ฟาร์เรล, เฮนรี่ โกลดิง และ ฮิวจ์ แกรนท์
เข้าฉาย: 30 มกราคม 2563
ความยาว: 113 นาที
ดูหนังใหม่ได้ที่ ดูหนังใหม่
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ facebook 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *