รีวิว Hawkeye

 

 

ดูหนัง จบไปไม่นาน สำหรับ ‘Hawkeye’ ซีรีส์ ซูเปอร์ฮีโร ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  และ ถือเป็น มาร์เวล ออริจันัล ซีรีส์ ของทาง ค่ายดังอย่าง ดิสนีย์ พลัส เรื่องที่ 5 ต่อจาก ‘Wanda Vision’ ‘Falcon and Winter Soldier’ ‘Loki’ และ ‘What If’ โดย ‘Hawkeye’
เลือกนำเสนอในธีมของซีรีส์ฮีโรคริสต์มาสโดยนำตัวละคร คลินต์ บาร์ตัน ที่รับบทโดย เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner) กลับมาจับธนูอีกครั้งเพื่อสอนบทเรียนการเป็นฮีโรให้กับ เคต บิชอป ที่ได้สาวสวยมากความสามารถอย่าง เฮลีย์ สไตน์เฟลด์ (hailee steinfeld) มาสวมบทลูกศิษย์ของหนึ่งในฮีโรของอเวนเจอร์ส
รีวิว Hawkeye
จุดเด่นของ ‘Hawkeye’ คงหนีไม่พ้นการที่มันเป็นซีรีส์ที่พูดถึงฮีโรที่ไม่ได้มีพลังพิเศษอย่างคลินต์ บาร์ตันหรือฮอว์กอาย โดยมีจุดร่วมสำคัญของซีรีส์มาร์เวลที่มีตัวละครจากอเวนเจอร์สในปีนี้คือการยอมรับความสูญเสียหลังเหตุการณ์ใน ‘Avengers Endgame’ ทั้งแวนดา แม็กซิมอฟ (ตัวละครที่รับบทโดยเอลิซาเบธ โอลเซน Elizabeth Olsen) ที่เลือกสร้างโลกจากเวทมนตร์ของเธอเพื่อรับมือกับการสูญเสียคนรัก หรือการที่แซม วิลสัน (รับบทโดย แอนโธนี แมกกี Anthony Mackie) กำลังทำใจรับหน้าที่กัปตันอเมริกาต่อจากสตีฟ โรเจอร์ส
สำหรับบาร์ตัน นอกจากภาวะหูดับที่เป็นผลมาจากการต่อสู้แล้วเขายังต้องทำใจรับการสูญเสียนาตาชา โรมานอฟ (รับบทโดย สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน Scarlett Johansson) และกลับมารับเกียรติที่เขาคิดว่าตัวเองไม่สมควรได้รับจากการช่วยกอบกู้โลก ดังนั้นตอนแรกของซีรีส์เลยมีฉากที่บาร์ตันไปชมมิวสิคัลชื่อ ‘Rogers The Musical’ ที่ทำเพื่อยกย่องสตีฟ โรเจอร์สและเหล่าเอเวนเจอร์ส และบาร์ตันเลือกที่จะปิดเครื่องช่วยฟังเพื่อปิดการรับรู้ก็ถือเป็นฉากที่แสดงให้เห็นปมในใจบาร์ตันได้อย่างชัดเจน
รีวิว Hawkeye
Laura Barton (Linda Cardellini) in Marvel Studios’ HAWKEYE, exclusively on Disney+. Photo by Chuck Zlotnick. ©Marvel Studios 2021. All Rights Reserved
แต่กระนั้นแล้วศูนย์กลางของเรื่องก็ไม่ได้อยู่ที่บาร์ตันเสียทีเดียวแม้จะมีเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ระยะเวลาของเรื่องราวในซีรีส์คือ 5 วันก่อนคริสต์มาสที่บาร์ตันต้องกลับไปที่บ้านตามสัญญากับครอบครัว แต่กลับเป็นเคต บิชอป ลูกสาวมหาเศรษฐีที่ต้องสูญเสียพ่อไปในสงครามสมรภูมินิวยอร์ค (เหตุการณ์ใน The Avengers ปี 2012) และภาพของบาร์ตันในนามฮอว์กอายที่ทิ้งดิ่งจากตึกแล้วยิงธนูใส่พวกเอเลียนก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเดินตามรอยนักธนูแบบเขาเพื่อหวังจะได้กลายเป็นฮีโรในสักวัน
จึงเกิดเป็นเรื่องราวแนวครูกับลูกศิษย์ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันและความสนุกของซีรีส์ก็มาจากช่วงของการเรียนรู้กันและกันของตัวละครนี่แหละครับ และในขณะที่บาร์ตันห่างจากครอบครัวตัวเองเขาก็ได้มีส่วนเติมเต็มให้เคตที่สูญเสียพ่อไปในเหตุการณ์ที่นิวยอร์ก และซีรีส์ก็ชาญฉลาดมากที่ใช้เหตุการณ์สูญเสียของเคตมาเป็นตัวเปรียบเทียบกับกรณีของมายา (รับบทโดย อาลาคัว คอกซ์ Alaqua Cox) ที่พ่อของเธอถูกโรนินฆ่าตายต่อหน้าต่อตา จนทำให้เธอกลายเป็นผู้นำของกลุ่มมาเฟียรัสเซียชุดวอร์มที่คอยตามล่าเคตเพราะเข้าใจว่าเธอคือโรนินหลังจากเธอเอาชุดมาสวมในเหตุชุลมุนนั่นเอง

รีวิว Hawkeye

รีวิว Hawkeye

ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็สร้างช่องโหว่ให้พลอตอย่างช่วยไม่ได้เหมือนกันนะครับเพราะหากมายากับพรรคพวกฉลาดจริงก็น่าจะสังเกตได้ตั้งแต่แรกแล้วว่ารูปพรรณสัณฐานของเคตและท่าทางการต่อสู้ของเธอไม่ได้ใกล้เคียงกับโรนินเลยด้วยซ้ำ แต่ซีรีส์ก็พยายามเอาตัวรอดไปได้ด้วยการให้พลพรรคเหล่ามาเฟียชุดวอร์มเป็นตัวร้ายแนวตลกแทนเพื่อลดโทนความจริงจังลง
Yelena Belova (Florence Pugh) in Marvel Studios’ HAWKEYE, exclusively on Disney+. Photo by Chuck Zlotnick. ©Marvel Studios 2021. All Rights Reserved
และแม้ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ จะเอื้อเหลือเกินให้ ‘Hawkeye’ กลายเป็นซีรีส์ฮีโรแนวครอบครัวแต่เมื่อซีรีส์พยายามขมวดปมในช่วงตอนที่ 5 กับตอนที่ 6 ที่สร้างกระแสในอินเทอร์เน็ตมากมายและสร้างการคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานาปรากฎว่าตัวละครที่ีมีที่มาดำมืดที่สุดอย่างมายากลับขาดความน่าสนใจไปอย่างน่าเสียดายยิ่งเธอกำลังถูกวางให้รับบทนำในซีรีส์ ‘Echo’ ซึ่งจะสร้างมาจากตัวละครของเธอแล้วก็ยิ่งทำให้เห็นว่า ‘Hawkeye’ ยังนำเสนอตัวละครของเธอได้ไม่ดีเท่าที่ควร
เพราะแทนที่จะไปเน้นกับที่มาที่ไปของมายาที่จะพัฒนาตัวเองไปสู่สถานะของเอ็กโค่ ซีรีส์กลับให้เธอสาละวนกับการทะเลาะกับผู้ชายอย่างคาซี (รับบทโดย ฟรา ฟี Fra Fee) หรือเดอะคลาวน์ ตัวละครนักฆ่าตัวตลกที่ถูกลดสถานะเหลือแค่มือขวาของมายา และการตามล่าบาร์ตันกับบิชอปเพื่อพิสูจน์ว่าเธอและพรรคพวกไร้ฝีมืออย่างสิ้นเชิงก็ยิ่งทำให้การมีอยู่ของตัวละครมายาดูไม่ค่อยมีความสำคัญมากพอจะมีซีรีส์ ‘Echo’ เป็นของตัวเองนักทั้งที่อุตส่าห์ได้ อาลาคัว ค็อกซ์ นักแสดงสาวที่ทั้งเป็นใบ้และใส่ขาเทียมจริง ๆ มาแสดงฝีมือการแสดงที่บอกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
สำหรับในส่วนของตัวละครหลักแล้วแม้เจเรมี เรนเนอร์จะกลับมารับบทคลินต์ บาร์ตันฉบับพีทีเอสดี (PTSD) ได้อย่างน่าเชื่อถือแต่กลับไม่ได้ต่อยอดเรื่องราวอะไรให้กับตัวละครฮอว์คอายนัก แม้ว่าจะมีตัวละครลอรา บาร์ตันที่ได้สาวสวยอย่าง ลินดา คาร์เดลลินี (Linda Cardellini) กลับมารับบทภรรยาของคลินต์และในซีรีส์ก็มีพูดถึงนาฬิกาโรเล็กซ์ที่เขาต้องไปเอามาจากห้องมายาจนทำให้เราเข้าใจไปว่าจะได้เห็นมอคกิงเบิร์ดคู่หูคู่รักของฮอว์กอายเสียอีกแต่สุดท้ายลอราก็เป็นแค่ตัวประกอบในเรืี่องราวของฮอว์กอายอยู่ดี
 Jack Duquesne (Tony Dalton) in Marvel Studios’ HAWKEYE, exclusively on Disney+. Photo by Chuck Zlotnick. ©Marvel Studios 2021. All Rights Reserved
จนทำให้เราเป็นห่วงแล้วว่ากรณีของเคต บิชอปจะถูกมาร์เวลทิ้งขว้างอีกหรือเปล่า แต่แล้วกลับผิดคาดเพราะซีรีส์เอื้ออำนวยและให้เวลาเราได้รู้จักกับบิชอปพอสมควรแถมการได้เฮลี สไตน์เฟลด์มารับบทนี้ยังทำให้ตัวละครมีเสน่ห์และน่าติดตามมาก ๆ เพราะสไตน์เฟลด์สามารถทำให้ตัวละครบิชอปหรือลูกศิษย์ฮอว์คอายเป็นตัวแทนของเด็กเจนอัลฟ่าที่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง ปฏิเสธมรดกที่แม่พยายามให้สืบทอดและยิ่งซีรีส์ดำเนินเรื่องไปแต่ละตอนเราก็ได้เห็นพัฒนาการของตัวละครชัดเจนขึ้นจนน่าชื่นชม

ส่วนที่ชอบ ในเรื่องนี้ 

อีกไฮไลต์ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือการนำตัวละครเยเลนากลับมาในตอนที่ 4-6 ซึ่งการมาถึงของฟลอเรนซ์ พิว (Florence Pugh) ที่พาตัวละครของเธอจาก ‘Black Widow’ มาปรากฎตัวก็ทำให้ซีรีส์มีอะไรให้ติดตามมากขึ้นแถมยังเป็นสะพานเชื่อมไปสู่ตอนจบที่มีการเผยโฉมของผู้ร้ายอย่าง คิงพิน (King Pin) อีกด้วย ท้ายสุดแล้ว ‘Hawkeye’ ก็ยังถือเป็นซีรีส์ที่ดูสนุกและสามารถอยู่ในคอลเล็กชันซีรีส์ที่จะเอามาเปิดแบบต่อเนื่องในเทศกาลคริสต์มาสได้เลยล่ะ แม้ว่าโดยรวมแล้วเหล่าตัวละครจากคอมิกหลายตัวจะน่าผิดหวังที่มันไม่ได้พัฒนาไปสู่ความเป็นฮีโรหรือซูเปอร์วายร้ายที่แฟนคอมิกรู้จักก็ตาม แต่อย่างน้อยการได้เห็นอเวนเจอร์สตัวรองอย่างฮอว์กอายมาสร้างศิษย์เอกที่อาจมีบทบาทใน MCU ต่อไปและการจบเรื่องราวได้ค่อนข้างเหมาะกับเทศกาลคริสต์มาสก็ถือว่าน่าพอใจมากแล้วสำหรับแฟนมาร์เวล
อีกไฮไลต์ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือการนำตัวละครเยเลนากลับมาในตอนที่ 4-6 ซึ่งการมาถึงของฟลอเรนซ์ พิว (Florence Pugh) ที่พาตัวละครของเธอจาก ‘Black Widow’ มาปรากฎตัวก็ทำให้ซีรีส์มีอะไรให้ติดตามมากขึ้นแถมยังเป็นสะพานเชื่อมไปสู่ตอนจบที่มีการเผยโฉมของผู้ร้ายอย่าง คิงพิน (King Pin) อีกด้วย ท้ายสุดแล้ว ‘Hawkeye’ ก็ยังถือเป็นซีรีส์ที่ดูสนุกและสามารถอยู่ในคอลเล็กชันซีรีส์ที่จะเอามาเปิดแบบต่อเนื่องในเทศกาลคริสต์มาสได้เลยล่ะ แม้ว่าโดยรวมแล้วเหล่าตัวละครจากคอมิกหลายตัวจะน่าผิดหวังที่มันไม่ได้พัฒนาไปสู่ความเป็นฮีโรหรือซูเปอร์วายร้ายที่แฟนคอมิกรู้จักก็ตาม แต่อย่างน้อยการได้เห็นอเวนเจอร์สตัวรองอย่างฮอว์กอายมาสร้างศิษย์เอกที่อาจมีบทบาทใน MCU ต่อไปและการจบเรื่องราวได้ค่อนข้างเหมาะกับเทศกาลคริสต์มาสก็ถือว่าน่าพอใจมากแล้วสำหรับแฟนมาร์เวล
 ทำออกมาตอบโจทย์เทศกาลส่งท้ายปีเก่ามาก ๆ ทั้งบรรยากาศเฉลิมฉลอง และผสมผสานกับเสน่ห์ของตัวละคร ทำให้หนังเรื่องนี้ดูแล้วอมยิ้ม มีความสุขได้ไม่ยาก แม้ว่าจะมีพาร์ทที่ปะปนไปด้วยดราม่า แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังเป็นอะไรที่ดูง่าย บันเทิง ครบเครื่องมาก ๆ ถ้าเทียบกับ Falcon and The Winter Soldier แล้ว เรื่องนั้นจะการเมืองหนักกว่า ทำให้เราได้เห็นการวางธีมของแต่ละตัวละครที่แตกต่างกันของ Marvel
โดยภาพรวม ก็อยากแนะนำว่าดูเถอะ ไม่ผิดหวัง Hawkeye เป็นซีรีส์ที่อาจจะไม่ได้มีอะไรส่งผลระดับหนังทั้งเฟสของ Marvel Cinematic Universe แบบ Loki เพราะสเกลพลังเล็กกว่ามาก แต่ก็เป็นซีรีส์ที่ทั้งเคลียร์ปมในใจตัวละคร เปิดตัวละครใหม่ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ที่พร้อมจะนำไปสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ต่อในอนาคตครับ และมันไม่ใช่แค่ซีรีส์ทางผ่านแน่นอน เพราะตัวซีรีส์เองก็มีความสนุก ชวนติดตามมาก ๆ เช่นกัน
ดูหนังใหม่ได้ที่ ดูหนังฟรี ดูหนังใหม่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *