รีวิว Vampire Twilight
รีวิวหนังฮิต สวัสดีค่ะทุกคน ตอนนี้มีใครกำลังรู้สึกเบื่อบ้าง และ กำลัง มองหาภาพยนต์แฟนตาซีมาดูแก้เซ็งบ้างคะ และถ้าพูดถึงภาพยนต์แฟนตาซีเสริมจินตนาการก็คงหนีไม่พ้นมหากาพย์แฮร์รี่ พอตเตอร์อย่างแน่นอน แต่ถ้าเฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นหนังโรแมนติกวัยรุ่นก็ต้องเป็นเรื่องนี้เลยค่ะ Twilight : แรกรัตติกาล ภาพยนต์รักสุดโด่งดังที่ทำรายได้กว่า 401 ล้านจากทุนสร้างเพียง 37 ล้านเท่านั้น ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ก็ดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีของนักเขียนหญิงชาวอเมริกันชื่อว่า สเตเฟนี เมเยอร์ และใช้ชื่อเรื่องเหมือนกันค่ะ โดยทไวไลท์เป็นภาพยนต์แนวโรแมนติกแฟนตาซีที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างเบลล่าและเอ็ดเวิร์ด แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความรักแบบปกติทั่วไปเพราะเอ็ดเวิร์ดไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา และเส้นทางความรักหวานฉ่ำของพวกเขาก็ทำให้หลายต่อหลายต่อหลายคนตกอยู่ในภวังค์
เรื่องย่อ Twilight : แรกรัตติกาล
เรื่องราวความรักบนความแตกต่างเริ่มต้นขึ้นหลัง เบลล่า สวอน (คริสเตน สจ๊วด) วัยรุ่นสาวจากแอริโซน่าย้ายมาอยู่ในเมืองที่มีฝนตกชุกและอากาศชื้นทั้งปีอย่าง “ฟอร์คส” ไม่กี่วันหลังจากนั้นเธอก็ได้รับของขวัญต้อนรับจากครอบครัวของ เจคอบ แบล็ก (เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์) เพื่อนชายสมัยเด็ก และการกลับมาของเธอทำให้เขาดีใจจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ ซึ่งการย้ายบ้านครั้งนี้ทำให้เบลล่าต้องรีบปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและเพื่อนใหม่ โดยเฉพาะหนุ่มหล่อที่มีท่าทางลึกลับน่าหลงไหลอย่าง เอ็ดเวิร์ด คัลเลน (โรเบิร์ต แพตตินสัน) ที่แสดงท่าทางไม่เป็นมิตรตั้งแต่แรกเจอและความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้เริ่มต้นขึ้นในชั่วโมงชีววิทยา
หลังจากนั้นไม่นานเอ็ดเวิร์ดก็ช่วยชีวิตเบลล่าไว้ได้อย่างฉิวเฉียดขณะเธอตกอยู่ในอันตราย เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งทำให้เธอสงสัยในตัวเขามากขึ้นไปอีก และแน่นอนว่าทุกข้อสงสัยต้องได้รับคำตอบ เบลล่าพยายามค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ จนในที่สุดเธอก็รู้ความจริงว่าครอบครัวของเพื่อนร่วมชั้นสุดลึกลับเป็น “แวมไพร์” หลังจากความลับถูกเปิดเผย ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ก็เริ่มเหนียวแน่นขึ้น แต่ไม่นานหลังจากนั้นชีวิตของเธอก็ต้องพบกับความท้าทายอีกครั้งเมื่อเลือดของเบลล่าช่างหอมหวนเตะจมูกแวมไพร์กลุ่มอื่นเข้า และแน่นอนว่าครอบครัวของเอ็ดเวิร์ดจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเธอจากแวมไพร์นักสะกดรอย
พล็อตเรื่องน่าสนใจและเจาะกลุ่มวัยรุ่นได้ดี
เนื่องจากทไวไลท์เป็นภาพยนต์รักโรแมนติกที่ไม่ใช่ความรักระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ถือว่าเป็นความแปลกใหม่เลยทีเดียวค่ะ พล็อตเรื่องจะแสดงถึงความรักแสนหวานของตัวละครมนุษย์กับแวมไพร์ที่ต้องจับมือกันเอาชนะความปรารถนาในใจและก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ แต่ถึงแม้ว่าโครงเรื่องจะดูเพ้อฝันไปสักหน่อยแต่กลับเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นฉากเอ็ดวิร์ดและเบลล่าเต้นรำกลางฟลอร์ที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้และแสงไฟสวยงามทำเอาหลายคนถึงกับเคลิ้มจนเก็บไปฝันเลยทีเดียว เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี
รีวิว Vampire Twilight
รวบรวมนักแสดงวัยรุ่นไว้อย่างคับคั่ง
และอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ภาพยนต์เรื่องนี้ได้รับฟีดแบ็กท่วมท้นก็เพราะมีการรวบรวมนักแสดงวัยรุ่นไว้มากมายนั่นเองค่ะ ด้วยความที่โครงเรื่องเกี่ยวกับชีวิตรักไฮสคูลทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้คับคั่งไปด้วยนักแสดงวัยรุ่นทั้งหน้าใหม่และมากประสบการณ์ ประกอบกับความหล่อของหนุ่มโรเบิร์ตที่เคยร่ายคาถาใส่หัวใจของสาว ๆ มาแล้วกับบท เซดดริก ดิกกอรี่ ในซีรีส์แฮร์รี่ พอตเตอร์ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่แฟน ๆ จะตกหลุมรักแวมไพร์เอ็ดเวิร์ดตามไปด้วย
ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของครอบครัวคัลเลน
ในเรื่องเพื่อน ๆ หลายคนคงจะเห็นฉากที่ครอบครัวคัลเลนพยายามช่วยเบลล่าหลบหนีจากการตามล่าของแวมไพร์นักสะกดรอย และสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความรักและสามัคคีของครอบครัวนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ ถึงแม้ว่าที่แท้จริงแล้วพวกเขาจะมาจากต่างถิ่น ต่างครอบครัว
ในเรื่องเพื่อน ๆ หลายคนคงจะเห็นฉากที่ครอบครัวคัลเลนพยายามช่วยเบลล่าหลบหนีจากการตามล่าของแวมไพร์นักสะกดรอย และสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความรักและสามัคคีของครอบครัวนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ ถึงแม้ว่าที่แท้จริงแล้วพวกเขาจะมาจากต่างถิ่น ต่างครอบครัว
แต่เมื่อพวกเขากลายเป็นแวมไพร์และใช้นามสกุลเดียวกันแล้วเขาก็พร้อมจับมือและช่วยคนในครอบครัวรวมถึงคนรักให้ปลอดภัยจากอันตรายอยู่เสมอ
การแสดงออกทางอารมณ์ของตัวละคร
อย่างที่กล่าวไปแล้วในข้อที่สองว่าภาพยนต์เรื่องนี้เป็นความรักไฮสคูล เพราะฉะนั้นอารมณ์และความต้องการบางอย่างของตัวละครจึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและไม่รู้ว่าจะแสดงมันออกมาอย่างไรดีตามประสาเด็ก บางซีนจึงทำให้คนดูรู้สึกสับคน, ตื่นเต้น หรือลุ้นจนตัวโก่ง และกลับมาฉุกคิดได้ว่าฉันก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกันเลย หรือบางซีนที่ถ่ายถอดชีวิตนักเรียนไฮสคูลต่างประเทศออกมาได้อย่างดีเยี่ยมทำให้หลาย ๆ คนหวนคิดถึงกลุ่มเพื่อนหรือเหตุการณ์ชีวิตในช่วงเวลานั้น
อุปกรณ์ประกอบฉากและคอมพิวเตอร์กราฟิก
ใช่ค่ะ เนื่องจากภาพยนต์เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีที่จะต้องมีฉากต่อสู้สุดเหวี่ยงหรือฉากโชว์ความสามารถพิเศษที่เกินพลังของมุษย์ธรรมดา ดังนั้นทีมผู้สร้างจึงทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับคอมพิวเตอร์กราฟิกที่จะช่วยเปลี่ยนหนุ่มโรเบิร์ตให้เป็นแวมไพร์หนุ่มทรงพลัง รวมถึงความทุ่มเทของนักแสดงที่เล่นฉากแอคชั่นกันแบบสด ๆ ไม่ใช้นักแสดงแทนกันเลยทีเดียว
ความงามที่จับต้องไม่ได้
ต้องยอมรับว่าฉากที่มีหนุ่มเอ็ดเวิร์ด คัลเลนนั้นดูสวยงามราวกับอยู่ในจินตนาการอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะผู้เขียนต้องการแสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษของพระเอกค่ะ ต้องบอกก่อนว่าอมนุษย์แต่ละคนในเรื่องนี้จะมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกัน และความสามารถของเอ็ดเวิร์ดก็คือความลุ่มหลง เขามีใบหน้าและหุ่นกำยำ แข็งแกร่ง น่าหลงไหลราวกับประติมากรรมชั้นเลิศที่พร้อมดึงดูดทุกสายตาไม่ว่าจะอยู่ในอริยาบทไหนก็ตาม และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย
ถึงแม้ว่าจะผ่านมาสิบกว่าปีแล้วหลังจากทไวไลท์ออกอากาศเป็นครั้งแรก แต่จนถึงตอนนี้ภาพยนต์เรื่องนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกหนังโรแมนติกที่หลายคนมักจะหยิบยกกลับมาดูในวันว่างและตกอยู่ในภวังค์ความรักของพวกเขาได้เสมอ ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าภาพยนต์เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เสริมจินตนาการของเราได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าหลังจากดูภาพยนต์เรื่องนี้จบแล้วหลายคนคงจะขัดซอกคอรอแวมไพร์หนุ่มหล่อสักคนหลงเข้ามาเพื่อเปลี่ยนชีวิตของเราให้เคียงคู่กันไปตลอดกาล สุดท้ายแล้วเราก็หวังว่าทุกคนจะเจอความรักที่สวยงามเช่นกันนะคะ
ก่อนที่เราจะมารีวิวหนัง คุณจะต้องมาทำความเข้าใจในภาพยนตร์เรื่องนี้กันก่อนนะคะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวแฟนซี โรแมนติก ง่าย ๆ มันก็คือหนังรักนั่นเอง แต่มีตรีมความเป็นเทพนิยายเข้ามา นั่นคือเรื่องของแวมไพร์ โดยเนื้อหาจะมีประมาณว่า เบลล่า สวอน นำแสดงโดยคริสแตน สจ๊วต หญิงสาวที่ดูใสซื่อ พึ่งย้ายมาจากเมืองอื่น ที่ดูเหมือนจะตกหลุม รักชายที่มีชื่อว่า เอ็ดเวิร์ด คัลเลน นำแสดงโดย โรเบิร์ต แพตตินสัน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่หญิงชายจะตกหลุมรักในช่วงอายุวัยรุ่น จนเบลล่าได้พบว่าชายที่เธอแอบปลื้มมีอะไรที่ประหลาดเกิดขึ้น
วันหนึ่งเธอก็ได้พบว่าจริง ๆ แล้วเอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์ ซึ่งเมื่อรู้อย่างนั้นแล้ว ตอนแรกเบลล่าก็รู้สึกแปลกใจ และไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เบลล่าก็ได้เห็นเอ็ดเวิร์ดช่วยชีวิตของเธอจากสิ่งอันตราย โดยที่มีพลังมหาศาล จึงทำให้เธอเชื่อ เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เขาและเธอก็ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน จนเอ็ดเวิร์ดพาไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา และแน่นอนว่าเบลล่าเป็นมนุษย์คนเดียวในบ้านผีดูดเลือดนั่นเอง เมื่อกลิ่นเลือดของเธอมันช่างหอมหวานจนไม่อาจจะทำให้เหล่าคนในครอบครัวห้ามใจได้ แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เพราะห้ามใจไว้ได้ทัน
แต่เมื่อเอ็ดเวิร์ดเลือกรักผู้หญิงคนนี้แล้ว ทำให้ครอบครัวของเขาต้องปรับตัวทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้อาการหิวเลือดมนุษย์กำเริบขึ้นอีก หลังจากนั้นเรื่องราวจะเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นกับเบลล่าและเอ็ดเวิร์ดอีกไหม ไปติดตามชมกันได้ที่ Vampire Twilight ภาค 1 เลยค่ะ ความรู้สึกส่วนตัวเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ คือเป็นหนังที่ดี และสนุกมาก เนื่องจากพล็อตของเรื่องค่อนข้างน่าสนใจมาก ๆ เพราะเป็นเรื่องราวของมนุษย์ และแวมไพร์ที่ตกหลุมรักกัน ซึ่งทำให้เรารู้สึกอยากเป็นแวมไพร์ขึ้นมาทันที อาจจะดูเพ้อฝันมาก ๆ แต่เพราะเนื้อเรื่องของเขาทำให้เราอินไปกับฉากแต่ละฉากอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
แถมเรื่องของการแสดงอารมณ์ในตัวละคร ทำได้เยี่ยมมาก ๆ เราไม่มีตรงไหนจะติเลย เอาง่าย ๆ ว่าเป็นหนังที่เก่าแล้ว หลายคนอาจจะเคยดูกันจนครบ 4 ภาคแล้วละ แต่สำหรับใครที่ไม่เคยดูเลย เราแนะนำหนังเรื่องนี้เลยค่ะ เป็นหนังรักที่มีเรื่องของเทพนิยายเข้ามาทำให้หนังสนุก ดูเพลิดเพลินมากขึ้น ง่าย ๆ คือดูภาคแรกจบ ถ้าไม่ต่อภาคสองคงจะนอนไม่หลับแน่ ๆ หนังฟรี หนังใหม่
จุดเด่นของหนัง
นั่นคือการตีความของฉันในสุดสัปดาห์นี้ว่าฉันต้องอดทนกับการทํางานที่โรงภาพยนตร์ของฉันรั้งฮอร์โมนบ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้สวมใส่ภายใต้เด็กสาวที่พัฒนาแล้วซึ่งฉันคิดว่าจะต้องตายด้วยความคาดหวังว่าจะได้เห็นทไวไลท์ฉันไม่ได้ล้อเล่นฉันเองเห็นเด็กอายุสิบสองปีบอกว่าเธอต้องการมีลูกของโรเบิร์ตแพททินสัน ตกลงดังนั้นวิธีที่ฉันเห็นภาพยนตร์น้องสาวของฉันประชดประชันพี่สาวของฉันเพิ่งคลั่งไคล้ซีรีส์ Twilight กับเพื่อน ๆ
ของเธอและบอกฉันว่าฉันต้องอ่านหนังสือเหล่านี้หลังจากหลายสัปดาห์ที่ดักฟังฉันกับมันในที่สุดฉันก็พังทลายลงและอ่านมัน จริงๆแล้วมันเป็นซีรีส์ที่สนุกมันทําให้ฉันนึกถึงความรักเดียวกันกับที่ฉันมีสําหรับซีรีส์ทีวี Buffy แวมไพร์ Slayer เมื่อฉันเป็นวัยรุ่น แต่แน่นอนว่าเธอต้องพาฉันไปรอบปฐมทัศน์เที่ยงคืนกับแฟน ๆ ที่บ้าคลั่ง 100,000 คนที่ล้มกันและคลานไปทั่วกันเพื่อชมภาพยนตร์
เบลล่าสวอนมักจะแตกต่างกันเล็กน้อยไม่เคยสนใจเกี่ยวกับการกระชับกับสาวอินเทรนด์ที่โรงเรียนมัธยมฟีนิกซ์ของเธอ เมื่อแม่ของเธอแต่งงานใหม่และส่งเบลล่าไปอยู่กับพ่อของเธอในเมืองเล็ก ๆ ที่ฝนตกของ Forks วอชิงตันเธอไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายที่จะเปลี่ยนแปลง จากนั้นเธอก็ได้พบกับเอ็ดเวิร์ดคัลเลนที่ลึกลับและสวยงาม ฉลาดและมีไหวพริบเขาเห็นตรงเข้าไปในจิตวิญญาณของเธอ เร็ว ๆ นี้เบลล่าและเอ็ดเวิร์ดถูกกวาดขึ้นในความรักที่หลงใหลและตัดสินใจ unorthodox เอ็ดเวิร์ดสามารถวิ่งได้เร็วกว่าสิงโตภูเขาเขาสามารถหยุดรถที่กําลังเคลื่อนที่ด้วยมือเปล่าและเขาไม่ได้อายุตั้งแต่ปี 1918 เหมือนแวมไพร์ทุกตัว แต่เขาไม่มีเขี้ยว และเขาไม่ดื่มเลือดมนุษย์
ดังนั้นความคิดเห็นของฉันเกี่ยวกับทไวไลท์ภาพยนตร์ บอกตามตรงนะ มันเฉลี่ยแล้ว มันเป็นความรักระดับมัธยมต้นของฉันกับแวมไพร์ ฉันเกลียดเกินกว่าจะเกลียดที่จะพูดแบบนี้ฉันเป็นคนหน้าซื่อใจคดที่พูดแบบนี้ แต่เพราะฉันอ่านหนังสือก่อนที่ฉันจะดูหนังฉันมีการตีความที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงว่าตัวละครมีลักษณะอย่างไรและพวกเขาพูดอะไรบางบรรทัด ทไวไลท์ภาพยนตร์ทําให้ฉันหัวเราะมากกว่าสิ่งใดเพียงเพราะนักแสดงโรเบิร์ตและคริสเตนไม่ใช่นักแสดงที่ไม่ดี
แต่วิธีที่พวกเขาพูดฉันแค่ไม่สามารถจริงจังกับ “ความรัก” ของพวกเขาได้ Peter Facinelli ผู้รับบท Carlisle Cullen พ่อของ Edward เป็นวิธีที่ผมถ่ายภาพและดึงผลงานที่ดีที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ มันคุ้มค่ากับการดูอย่างแน่นอนถ้าคุณเป็นแฟนของหนังสือมิฉะนั้นฉันจะบอกว่าถ้าคุณเพียงแค่ต้องการที่จะดูหนังเรื่องนี้ฉันแนะนําราคา matinée เพราะสุจริตฉันคิดว่าฉันอาจสูญเสียการได้ยินของฉันหลังจากสุดสัปดาห์นี้ของไม่มีใครหยุดกรีดร้องจากวัยรุ่นบ้า
เรื่องราวของ “เบลล่า สวอน” (รับบทโดย Kristen Stewart) เด็กสาวในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างกัน และแยกกันอยู่ ซึ่งเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ของเธอมาโดยตลอดตั้งแต่เด็ก แต่ในวันหนึ่งแม่ของเธอก็ได้แต่งงานใหม่ และสามีใหม่ของแม่เธอเป็นนักเบสบอลที่ต้องเดินทางไปแข่งขันบ่อยๆ เธอจึงเห็นว่าถ้าเธอยังอยู่กับแม่นั้น แม่เธอจะต้องคอยอยู่ดูแลเธอที่บ้านแทนที่จะได้ออกเดินทางไปพร้อมกับสามีใหม่ เบลล่าจึงอยากเปิดโอกาสให้แม่ของเธอมีความสุขกับชีวิตคู่ครั้งใหม่นี้ให้เต็มที่ เธอจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพ่อของเธอที่เมืองฟอร์ก สหรัฐอเมริกา เมืองที่มีฝนตก หนาวเย็นตลอดทั้งปีแทน
เมื่อเบลล่าได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ เธอก็ได้พบเข้ากับ “เอ็ดเวิร์ด คัลเลน” (รับบทโดย Robert Pattinson) ผู้ชายที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็ค ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา ความแข็งแรง และความฉลาดที่เรียกได้ว่าครบเครื่องเอามากๆ แต่ภายใต้ความเพอร์เฟ็คนี้กลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่
สำหรับหนังเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคบุกเบิกของหนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับแวมไพร์ในสมัยนั้นได้เลย เพราะด้วยความที่มันเป็นหนังรักที่มีเรื่องราวของแวมไพร์ และมีฉากต่อสู้เพื่อปกป้องคนที่รักเราให้เราได้ดูได้อย่างไม่น่าเบื่อเลย ซึ่งสำหรับใครที่ไม่ชอบหนังรักที่เป็นหนังรักแบบความรักหวานแหวว แอดว่าหนังเรื่องนี้ก็ตอบโจทย์อยู่นะ อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังเป็นหนังที่ใช้การเดินเรื่องได้แบบเรียลมากๆ เพราะตัวหนังนั้นมีการใส่เพลงประกอบมาน้อยมาก ให้อารมณ์เหมือนเรากำลังดูหนังญี่ปุ่นอยู่เลย เอาเป็นว่าสำหรับแอดนะ แอดว่าหนังเรื่องนี้น่ารักสมคำล่ำลือเลยจริง ว่าจะตามเก็บให้ครบทุกภาคเลยแหละ