รีวิว The Pianist

ในบรรดาภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง กับ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามมากที่สุด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างโดยอิงเค้าโครงเรื่องจริงจากชีวประวัติของ Wladyslaw Szpilman นักเปียโนชาวโปแลนด์ เชื้อสายยิว ซึ่งถูกกองทัพนาซีเยอรมันตามล่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

เนื้อเรื่อง รีวิว The Pianist

 

รีวิว The Pianist

 

ภาพยนตร์เริ่มแสดงให้เห็นตั้งแต่ที่ตัวเอกของเรื่องยังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีบ้าน มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา จนกระทั่งกองทัพเยอรมันเริ่มครอบงำโปแลนด์ได้มากขึ้น ชาวยิวเริ่มถูกกีดกัน และ ถูกจำกัดสิทธิ์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ชีวิตของพวกเขาเริ่มแย่

เรื่องย่อ รีวิว The Pianist

 

รีวิว The Pianist

 

ลงเรื่อย ๆ เริ่มขาดน้ำ และ อาหาร สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ต้องย้ายไปอยู่ในเขตกักกันชาวยิวที่กองทัพเยอรมันสร้างขึ้น คนที่ไม่เห็นด้วย กับ กองทัพนาซีก็จะถูกกำจัดด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่โหดร้ายขึ้นไปเรื่อย ๆ

 

ในช่วงกลาง ๆ เรื่อง ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวการหนีตายของ Szpilman อย่างเต็มที่ ทำทุกทาง กินทุกอย่างที่กินได้เพื่อให้มีชีวิตรอด จากคนที่หน้าตาหล่อเหลา แต่งตัวดี กลับกลายเป็นคนที่เหมือน กับ คนบ้า คน Homeless อะไรทำนองนั้น ผู้หญิงที่

 

เคยจีบช่วงเยอรมันบุกโปแลนด์ใหม่ ๆ เจอกันอีกทีก็ท้องไปแล้ว ทำให้เห็นว่าสงครามพรากทุก ๆ อย่างไปจากเขา แม้แต่มีเปียโนอยู่ในห้อง ยังไม่สามารถเล่นได้ เพราะกลัวเสียงจะดังไปถึงหูของพวกนาซีเยอรมัน ดูหนัง 

 

เราว่าใครไม่ชอบหนังเนือยๆสงครามเน้นอารมณ์อย่าดูเลยค่ะ มันน่าเบื่อมากๆ คือเราขอพูดเลยว่ามันน่าเบื่อมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นพอโดยรวมมันออกมามันก็เป็นหนังที่ทรงคุณค่ามากๆ ทั้งแสดงให้เห็นถึงความเลวร้ายของสงคราม และ ให้ความหวังกำลังใจเรา

 

เป็นเรื่องที่เราอยากดูมากจนพยายามหาซื้อแผ่น คือเราชอบหนังดนตรีอ่ะส่วนหนึ่ง และ แน่นอนว่าเราชอบหนังสงครามโลกมาก ๆ มันเป็น perfect combination ที่ควรหามาดูสำหรับเรายิ่งได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมการันตีแล้วด้วยยิ่งไม่ควรพลาด

 

รีวิว The Pianist

 

ก็เรื่องย่อหนังสงครามโลกก็ไม่มีอะไรเนอะ ตัวของเอเดรียนเป็นนักเปียโน ซึ่งมันจะสื่อเป็นนัยๆแหละว่าถึงจะเป็นคนละเชื้อชาติแต่เปียโนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนทั้งโลกเข้าใจได้ หนังเล่าเรื่องตั้งแต่สงครามยังไม่ได้โหดร้าย ในภาพความคิดพวกเราพอพูดถึง

 

สงครามอาจนึกถึงแต่ทหารสู้รบแขนขาเหวอะหวะตายกันเกลื่อนอะไรอย่างงี้ แต่อันนี้ตอนแรกก็แค่โฟกัสไปที่ครอบครัวที่ก็ใช้ชีวิตปกติแหละ อาจจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง แต่ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น แค่มีคนมาคอยตรวจ และ ต้องดิ้นรนหาวิธีการใช้เงินก้อนสุดท้าย คือมันก็กดดันแหละ แต่ไม่ใช่แบบในทางสู้รบฆ่าฟัน

 

ทีนี้ก็อย่างที่ทุกคนรู้ว่ามันเริ่มมีการกวาดล้าง ทุกคนก็ต้องเริ่มหนีละ หนังเงียบมากนะสำหรับเรา แต่มันเงียบแบบกรีดอารมณ์อ่ะ ถึงไม่มีบทพูดฉากฆ่าฟันแต่ภาพหลายๆอย่างมันน่ากลัวนะ ลองนึกสภาพว่าเราไม่รู้ว่าจะโดนจับไปทำอะไรบ้าง หรือรู้ว่า

 

ยังไงก็ต้องตายอยู่ดี ยิ่งฉากที่แม่ลูกอ่อนปิดปากเสียงลูกไม่ให้เล็ดลอดจนถูกจับได้จนลูกขาดอากาศหายใจตายนะ โอ๊ยยย มันไม่ได้ฉายภาพ แต่แค่พูดบรรยายเรื่อยเปื่อยไม่ได้ใส่อารมณ์แต่มันจึ้กน่าดูเลย ดูหนังออนไลน์

 

 

คือเอเดรียนไม่เหลือใครแล้ว เขาต้องดิ้นรนหลังจากนั้นเองโดยได้รับความช่วยเหลือจากหลาย ๆ คน คือไม่ได้สุขสบายนะ ไปไหนไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ เป็นโรคนู่นโรคนี่แล้วก็ไม่รู้ว่าครอบครัวที่เหลือเป็นยังไงกันบ้าง คือเราก็พอสัมผัสได้แหละว่าเขาเศร้าแต่เขาก็ยังต้องดิ้นรน

 

 

หนังไม่ได้มีฉากไหนดีเป็นพิเศษแต่เราดูจบแล้วเราไม่ได้หดหู่หนักแต่หนังเรื่องนี้ให้ความหวังหลายๆอย่างมากกว่า หนังน่าเบื่อหน่อยแต่เราให้คะแนนเพราะบทสรุป และ โดยรวมของหนังที่มันทิ้งอะไรไว้เยอะให้เราได้คิด ทิ้งหลายอย่างให้เราได้รู้สึก ที่สำคัญภาพของเรื่องนี้ทรงพลังมาก

 

วลาดิซสลาฟ สปิลมัน นักเปียโนชาวโปแลนด์ เชื้อสายยิว ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งมีบ้าน และ ครอบครัวที่แสนอบอุ่น แต่เมื่อโลกเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ชีวิตของเขากลับต้องพลิกผันเป็นอย่างมาก เพราะทหารเยอรมัน หรือกลุ่มนาซี ได้บุกเข้ายึดประเทศโปแลนด์ และ ทำการกดขี่ชาวยิวจากพฤติกรรมต่างๆ อันโหดเหี้ยมอำมหิตที่ต้องจารึกเอาไว้บนหน้าประวัติศาสตร์

 

สำหรับ The Pianist เหมาะ กับ คนที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ และ เรียนรู้ความโหดร้ายจากสงครามแล้ว หนังเรื่องนี้คือตำราชั้นดี ที่พาคนดูให้ได้เห็นถึงภาพความรุนแรง ที่ชวนหดหู่ สิ้นหวัง จนพาเอาจิตตกไปกันได้ง่าย ซึ่งถ้าใครที่ไม่อยากมาดำดิ่ง กับ

 

 

ความรู้สึกเหล่านี้ ก็แนะนำให้ข้ามหนังเรื่องนี้ไปกันได้เลย เพราะหนังถ่ายทอดออกมาได้สมจริง และ น่าเศร้าเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคนที่ใจแข็งพร้อมลุย และ ผ่านหนังผลพวงจากสงครามอันโหดร้ายอย่าง Schindler’s List, The Boy in the Striped Pajamas มาก่อนหน้านี้แล้ว The Pianist ก็คือการยกระดับความหดหู่ไปอีกขั้นกว่า 2 เรื่องที่แนะนำกัน

 

อีกหนึ่งภาพยนตร์จากเรื่องจริงของ Wladyslaw Szpilman ที่สะท้อนความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ชาวยิวต้องเผชิญ กับ สถานการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันแสนโหดเหี้ยม ผ่านการกำ กับ ของ Roman Polanski ผู้กำ กับ สายหนังคุณภาพอีก

 

คน ที่เป็นชาวโปแลนด์เหมือนกัน ซึ่งในเรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นหนังที่เกี่ยว กับ สงคราม และ มีฉากหลังเป็นสงคราม แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันกลับเป็นหนังที่เล่าถึงผลพวงจากสงครามที่ส่งผลกระทบต่อคนๆ หนึ่ง หรือผลกระทบต่อคนกลุ่มหนึ่งต่างหาก ด้วย

 

การเล่าเรื่องราวที่เกาะไป กับ ตัวละครเอกตั้งแต่เริ่มเรื่องที่มีชีวิตปกติสุข ไปสู่สถานการณ์ที่ค่อยๆ เลวร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นชวนหดหู่ไป กับ เรื่องราว ดูหนัง 4k 

 

 

ในเฉพาะในช่วงกลาง ๆ ไปจนถึงท้าย ๆ เรื่องนั้น มีหลายเหตุการณ์ในหนังมากที่ทำเอาคุณดูต้องจุกจนน้ำตาไหล ไม่เพียงแค่เฉพาะชะตากรรมอันโหดร้ายที่เกิดขึ้น กับ ชีวิตตัวเอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงชาวยิวรอบ ๆ ข้างที่หนังทำให้เห็นว่าชีวิต

 

พวกเขาก็พินาศไม่แพ้กัน เพียงเพราะเขาเกิดมาเป็นชาวยิวเท่านั้น หนังเต็มไปด้วยเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ชวนบีบหัวใจมากมาย และ เส้นทางของชีวิตชาวยิวในเรื่องก็ดูช่างไร้ความหวัง และ หนทางในการที่จะกลับไปมีชีวิตปกติ ซึ่งการเล่าเรื่องของ

 

ชาวยิวที่แอบลักลอบอาศัยอยู่ในพื้นที่ก็เป็นมุมที่เราไม่ค่อยเห็นนักในหนังสงครามประเภทนี้ เพราะส่วนมากเราจะเห็นการไปลงเอยของพวกเขา ที่ค่ายกักกันเสียมากกว่า

 

ซึ่ง Roman Polanski ก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้มาอย่างเต็มเหนี่ยวไร้ซึ่งการประนีประนอม แต่ท่ามกลางภาพความรุนแรงทั้งหลาย แต่ฉากที่เจ็บปวดใจที่สุดกลับเป็นฉากที่ตัวละครเอกอย่าง Szpilman นั้น อยากจะเล่นเปียโนที่อยู่ต่อหน้า แต่ก็ไม่

 

 

สามารถทำได้ เพราะกลัวว่าเสียงจะดังไปถึงหูทหารเยอรมัน ทั้ง ๆ ที่ดนตรีคือภาษาสากลที่ไม่ทำร้ายใคร แต่หากเขาเลือกเล่นไปมันอาจทำให้เขาเสียชีวิตได้ มันจึงเป็นสิ่งสะท้อนได้เลยว่าภายใต้การปกครองของพวกนาซีนั้น แม้แต่กิจกรรม หรือสิทธิพื้นฐานที่ไม่สามารถทำได้ ก็เรื่องที่่ชวนหดหู่ใจเสียเหลือเกิน นับเป็นอีกหนังผลพวงจากสงครามที่ถ่ายทอดความโหดร้ายได้เป็นอย่างมากจนคุณอาจจะไม่มีวันลืมมันไปได้เลย ดูหนังออนไลน์ 4k

 

อาจจะเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของฉันที่ได้เกิดในยุคที่ไม่มีสงครามบ่อยนัก หรือถึงมีก็ไม่ส่งผลโดยตรง กับ ประเทศไทยแบบสงครามโลกที่ผ่านมา ทำให้ฉันจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆว่าถ้าตอนนี้บ้านเมืองเผชิญสงคราม ฉันจะเป็นอย่างไรบ้าง จะได้

 

เป็นวีรสตรี หรือเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของผู้ลี้ภัยสงครามกัน สงสัยอาจจะเพราะไม่เคยเจอสงคราม ทำให้เราหาหนังเกี่ยว กับ สงครามมาดู แต่ขอยอมรับตามตรงว่าปกติจะไม่ดูหนังที่หดหู่มากนัก ทำใจไม่ได้ค่ะ (ฮา) แต่เนื่องจากตอนที่เราเลื่อนหน้าฟีดแอ

 

พนกสีฟ้าไปเรื่อย ๆ เพราะคร้านที่จะอ่านหนังสือเตรียมสอบ เราไปเจอทวิตนึงที่แนะนำหนังเรื่องนี้ เราได้เห็นรูปที่เป็นฉากนักเปียโนชาวยิว ตัวละครหลักของเรื่อง เล่นเปียโนให้ทหารชาวเยอรมันฟัง และ เมื่อได้อ่านว่าสร้างมาจากเรื่องจริง ทำให้เรากดออกจากแอพ แล้วเข้า Netflix เพื่อไปเปิดดูโดยทันทีทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันต้องเศร้า และ หดหู่มาก ๆ แน่ รีวิวหนัง 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *