รีวิว The New Mutants

 

 

รีวิวหนังฮิต วันนี้อยู่กับแอดบีอีกแล้ว แต่ว่าาาา วันนี้นั้นนนนน เราจะมา รีวิว หนังง….สยองงง…….ขวัญ กันดีกว่าาา บอกเลยแอดใจหายบ่อยมากก ฮ่าาาๆๆๆ แทบจะร้องไห้น้ำตาไหล ถึงจะไม่เต็มร้อย แต่ก็คุ้มค่าแก่การดูแน่นอน
เรื่องย่อ: เรื่องราวของกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์วัยรุ่นที่ได้รับการดูแลจากคุณหมอเรเยส ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องผจญภัยทั่วไปแล้วก็ยังต้องรับมือกับปัญหาว้าวุ่นแบบฉบับวัยรุ่น
ถือเป็นหนังเจ้าปัญหาอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าใครตามข่าวคงพอทราบว่าหนังถูกเลื่อนฉายมาแล้วหลายครั้งโดยไม่ได้เกี่ยวกับเทรนด์โควิด-19 แต่อย่างใด ทว่าเป็นเรื่องของตัวหนังเองที่ออกมาได้ไม่เป็นที่น่าพอใจของสตูดิโอเสียที ถึงขนาดมีกระแสช่วงหนึ่งว่าตัวหนังอาจไปลงสตรีมมิงหรือวิดีโอออนดีมานด์แทนกันเลยทีเดียว แถมพอดิสนีย์กับฟ็อกซ์ควบกิจการกันแล้ว แทนที่หนังจะได้แก้ไขตามที่มาร์เวลเห็นควร เหล่าดาราก็โตเกินจะไปถ่ายเพิ่มแล้ว เรียกว่าสุดปัญญาจะปรับปรุงแล้วนั่นเอง
รีวิว The New Mutants
ซึ่งวันนี้เมื่อตัวหนังลงฉายโรงก็คงบอกได้เพียงว่า เออ ค่ายคิดถูกแล้วล่ะที่อยากเอาไปฉายสตรีมมิงน่ะ เพราะไม่ว่าจะมองแง่ไหน มันก็คล้ายซีรีส์ตอนไพลอตเสียจริง ๆ

รีวิว The New Mutants

 

รีวิว The New Mutants

หนังเป็นความรับผิดชอบของผู้กำกับและมือเขียนบทอย่าง จอช บูน ที่เคยมีหนังแนวรักวัยรุ่นอย่าง The Fault in Our Stars (2014) เป็นเครดิตสำคัญ และเขาก็ได้นำจิตวิญญาณแบบวัยรุ่นมาขยายขึ้นเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรตระกูล X-Men ที่แตกไลน์มาจากคอมิกชื่อเดียวกันเมื่อปี 1982 บอกเล่าเรื่องราวแนวก้าวผ่านวัยของลูกศิษย์วัยรุ่นของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ซาเวียร์ แต่โจทย์ที่ จอช บูน ได้รับนั้นกลับพิเศษขึ้นไปอีก เพราะค่ายหมายมั่นปั้นหนังให้เป็นแนวซูเปอร์ฮีโรสยองขวัญซึ่งตลาดขาดแคลนในเวลานั้นพอดี
ส่วนที่ดูดีอยู่ก็มีเรื่องของนักแสดงที่น่าสนใจ อย่าง ไมซี่ วิลเลี่ยมส์ (Game of Thrones) และ อันยา เทย์เลอร์-จอย (Glass) ที่คุ้นหน้าคุ้นตาคอหนังอยู่ นอกนั้นก็ถือว่ามีเสน่ห์และพอให้จำได้อยู่บ้างอย่าง ชาร์ลี ฮีตัน (Stranger Things) เฮนรี่ ซาก้า (13 Reasons Why) และตัวนำหลักอย่าง บลู ฮันต์ ส่วนอีกหนึ่งคนที่ช่วยแบกหนังก็คงยกให้ผู้ใหญ่หนึ่งเดียวในเรื่องอย่าง อลิซ บราก้า (Elysium) ในบทหมอเรเยสที่ต้องดูเทา ๆ ไม่ออกขาวดำชัดเจน ซึ่งทีมนักแสดงก็ถือว่าลงตัวดีในระดับหนึ่ง แม้ว่าด้วยคาแรกเตอร์ตัวละครไม่ช่วยให้เคมีลงตัวง่ายเลยก็ตาม
รีวิว The New Mutants
อีกหนึ่งสิ่งที่หนังให้แบบเกินคาดเหมือนกัน คือข้อคิดต่าง ๆ ในแง่ของวัยรุ่นปะทะวัยผู้ใหญ่ ความหวังดีของผู้ใหญ่ปะทะการกดขี่จำกัดความคิดเด็ก ซึ่งกลายเป็นปัญหาสากลขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในบ้านเรานี่ก็เห็นเป็นดราม่าอยู่เนือง ๆ ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมเรื่องนี้ยังชวนให้นึกถึงสังคมบ้านเราหลาย ๆ อย่างแบบไม่ได้ตั้งใจเสียด้วย
แต่ปัญหาหลักที่นักแสดงช่วยไม่ได้ คือ เมื่อคุณเอาคนที่อาจถนัดเล่าความสัมพันธ์มิติด้านลึกของตัวละครวัยรุ่น ให้มาทำหนังแนวสยองขวัญ ซึ่งความหวังคือหนังต้องเรตผู้ใหญ่ ดาร์ก ๆ น่ากลัว ๆ กดดัน ๆ เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของแฟนบอยหนังซูเปอร์ฮีโร แล้วหนังมันมีศักยภาพไปถึงแค่หนังวัยรุ่นเน้นมิตรภาพงดงาม มันก็ไม่มีทางจะได้ใจคนดูอยู่แล้ว เมื่อ มันผิดฝาผิดฝั่ง มาแต่ต้น
เรื่องราวโฟกัสอยู่ที่เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ต่างอยู่ในช่วงวัยรุ่น ประกอบด้วย เรห์น ซินแคลร์, มาจิค หรือ อิลยานา รัสปูติน, ซัม กูธรี, โรเบอร์โต ดา คาสตา และน้องใหม่ แดนี มูนสตาร์ ที่พวกเขาอยู่รวมกันในสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่มี ดร.เรเยส เป็นผู้ควบคุมดูแลอยู่ พวกเขาจะต้องรับมือกับปัญหาของเหล่าวัยรุ่นที่ผสมผสานกันระหว่างช่วงฮอร์โมนพลุ่นพล่านกับพลังพิเศษที่ค่อยๆ เปล่งประกายออกมา
มองเป็นภาพรวมก็ต้องยอมรับว่าหนังมีฉากหน้าที่ค่อนข้างน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่ปรากฏผลลัพธ์ที่ออกมาในตัวหนังกลับกลายเป็นความล้มเหลวในหลายๆ ด้าน จะกล่าวให้สั้นกระชับก็น่าจะบอกได้ว่า The New Mutants กลายเป็นหนังฮีโร่รสชาติจืดๆ ที่จะไปทางไหนก็ไปไม่สุดสักทาง สุดท้ายจึงออกมาเป็นเพียงหนังวัยรุ่นมนุษย์กลายพันธุ์ที่แต่ละคนล้วนมีแต่ปมข้างในใจที่แตกต่างกันไป อรรถรสของหนังออกไปทางเฉยๆ แทบไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

ความรู้สึกส่วนตัวหลังดูจบ

 

ความรู้สึกส่วนตัวก็คือ 90 กว่านาทีของหนังแทบไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลยสักนิด พอลุกขึ้นและพ้นออกจากโรงหนังมาก็แทบจะลืมหนังทั้งเรื่องไปแล้ว เพราะหนังยังคงมีการเล่าเรื่องที่ยังไม่แข็งแรงเพียงพอ โดยเฉพาะการสร้างความโดดเด่นให้กับคาแรกเตอร์ต่างๆ ของเรื่องยังคงค่อนข้างล้มเหลว แม้จะเห็นถึงความพยายามของผู้สร้างอยู่ก็ตาม แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับแคสติ้งและศักยภาพของนักแสดงด้วย
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “อันยา เทเลอร์-จอย” ดูเป็นมืออาชีพและถ่ายทอดคาแรกเตอร์ที่ตัวเองได้รับมาเหมือนจะดีที่สุด และ มาจิค น่าจะเป็นตัวละครที่คนดูติดตามากที่สุดของเรื่อง ทั้งที่ตัวละครของเธอจะไร้มิติสิ้นดี ในขณะที่นักแสดงคนอื่นๆ อย่าง “ไมซี่ วิลเลี่ยมส์” กับบทมนุษย์หมาป่าสาว ที่มีปมลึกๆ ให้เล่นอยู่พอประมาณ แต่กลับขุดออกมาได้ไม่ถึงกึ๋น
ในขณะที่ “ชาร์ลี ฮีตัน” ที่รับบทเป็น ซัม กูธรี กับ “เฮนรี่ ซาก้า” ในบท โรเบอร์โต ดา คาสตา ชายหนุ่มพลังเหนือคนในเรื่องนี้แทบจะออกมาเป็นตัวประกอบของหนังอะไรทำนองนั้นเลย เช่นเดียวกับบท ดร.เรเยส ของ “อลิซ บราก้า” ที่ไม่มีมิติอะไร ตื้นเขินและมองทางออกได้ตั้งแต่แรก ตัวละครที่หมายมั้นจะปั้นให้เด่นอย่าง แดนี มูนสตาร์ ที่ “บลู ฮันท์” มารับหน้าที่นั้น กลับกลายเป็นความจืดสนิท ไม่มีอะไรให้จดจำเลยสักนิด นอกจากเป็นตัวสร้างปัญหาของเรื่อง
เข้าใจถึงความตั้งใจในงานสร้างของ “จอช บูน” กับความพยายามจะฉีกแนวทางหนังซูเปอร์ฮีโร่ให้ออกมาในโทนเขย่าขวัญระทึกขวัญหน่อยๆ แต่ด้วยโครงเรื่องที่ไม่แข็งแรงเพียงพอ ทำให้จังหวะและองค์ประกอบต่างๆ ในหนังช่างไม่ค่อยลงร่องลงรอยไปในทางเดียวกันสักเท่าไหร่ หยิบลูกเล่นความแฟนตาซี มาปนเปกับความเป็นฮีโร่ จับทุกอย่างมายำรวมกันเป็นจานเดียว ก็เหมือนกับกินยำแล้วลืมใส่ของเด็ด…อย่างน้ำปลาร้าไป
ดั้งนั้นจึงบอกได้ว่า หนังฮีโร่ในความพยายามที่จะเป็นหนังเขย่าขวัญของจอช บูน ครั้งนี้ยังค่อนข้างล้มเหลว หนังยังไม่สามารถทำได้ถึงจุดนั้น แม้ว่าจะมีประเด็นที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว แต่หนังมัวใช้เวลาเรื่อยเปื่อยในการปูทางด้วยโทนที่ราบเรียบเป็นแนวเดียวกันทั้งหมด ก้มมองดูนาฬิกาปาไปเกือบจะชั่วโมงแล้ว กว่าหนังจะเริ่มเข้าเรื่องและเคลื่อนไปข้างหน้าได้เสียที และเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงท้ายก็จัดมาพร้อมกับฉากใหญ่ที่ก็ยังไม่ได้ยิ่งเพียงพอ
The New Mutants จึงกลายเป็นหนังที่น่าจะเกิดเป็นคำถามที่ตามมาที่ว่า หรือจะหมดเวลาของเหล่า X-Men บนโลกภาพยนตร์แล้วหรือ? เพราะต้องยอมรับว่าเรื่องราวของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ตระกูลนี้แทบจะไม่หลงเหลือความน่าสนใจอีกต่อไปแล้ว ไม่แปลกใจที่ดิสนีย์ยังไม่สนใจจะหยิบจับนำเอาตัวละครเหล่านี้มาขึ้นจออีก เพราะไร้ความสดใหม่และยังหาแนวทางที่จะนำเสนอให้โดดเด่นขึ้นได้ หากยังดันทุรังสร้างต่อ…ผลลัพธ์ก็น่าจะเจ็บตัวเสียเปล่าๆ และการที่รอคอยหนังเรื่องนี้ให้ฉายมา ท้ายที่สุดก็ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นใดๆ อีก
กล่าวโดยสรุปก็คงจะบอกได้ว่า The New Mutants เป็นเพียงหนังวัยรุ่นมีพลังเหนือคนที่พอดูได้เพลินๆ มาดูฆ่าเวลาได้ เพราะหนังก็ไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับหนังเรื่องอื่นๆ ในจักรวาลเดียวกันสักเท่าไหร่นัก หนังมีตัวละครที่น่าสนใจ แต่ยังถ่ายทอดออกมาได้ไม่ค่อยดีนัก เนื้อเรื่องง่ายๆ พอสนุกได้ไม่ยาก แต่เมื่อดูจบแล้วก็เหมือนจะทิ้งเอาไว้ในโรงหนัง ไม่ได้เก็บเอาติดตัวกลับมาคิดวิเคราะห์ตามด้วย เห็นแล้วก็เป็นกำลังให้เหล่า X-Men ได้เจอแนวทางใหม่ๆ ที่เบิกทางให้กลับมาโดดเด่นได้อีกครั้งแล้วกัน
หนังแสดงความอ่อนประสบการณ์ในแนวดาร์กอย่างชัดเจน ที่หนักสุดคือหนังหลอกล่อคนดูไม่ได้เลย ว่าไปแทบเฉลยพลอตสำคัญแบบเชย ๆ เลยด้วยซ้ำ เข้าใจว่าเดิมค่ายคงอยากเห็นเรื่องราวของ แดนี่ เด็กสาวหนึ่งเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ประหลาด แล้วตื่นอีกครั้งก็มาอยู่ในการดูแลของคุณหมอเรเยสผู้มีพลังม่านบาเรีย และเฝ้าคอยสั่งสอนเด็กกลายพันธุ์ที่ยังหลงทางให้เข้ารูปเข้ารอย ออกไปเป็น X-Men ที่มีคุณภาพ ทว่าเด็กแต่ละคนก็มีปัญหามีอดีตที่อยากลืมกันทั้งนั้น แถมความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นที่ต้องมาอยู่ที่เดียวกันก็ไม่ค่อยลงรอยเสียอีก แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดหลอกหลอนผู้อาศัยในสถาบันนี้ทุกคน เด็กทั้งหมดต้องเติบโตและร่วมมือกันเพื่อแก้ปริศนาสุดสยองนี้ไปให้ได้
รู้สึกมั้ยว่าปมสยองลึกลับมันควรอยู่ที่เหตุการณ์นี้เกิดได้อย่างไร ใครอยู่เบื้องหลัง การสงสัยกันและกันโดยเฉพาะเด็กที่ไม่แสดงพลังของตนเอง อะไรแบบนั้น ทว่าหนังกลับให้คำใบ้แบบโจ่งแจ้งแทบบอกข้างหูกันตั้งแต่แรก ๆ ทีเดียว แล้วปมปัญหาใด ๆ ทั้งหลายในเรื่องอย่างความสัมพันธ์ตัวละคร มันก็คลี่คลายแบบโลกสวยดีเสียเหลือเกิน ถ้าผู้ชมคาดหวังมาดูหนังวัยรุ่นดราม่าฟีลกู้ดมันคงโอเคล่ะ แต่เพราะไม่ได้หวังไว้แค่นั้น ทุกอย่างของหนังจึงดูหน่อมแน้มไปหมด ตั้งแต่บท โปรดักชันซีจีที่คุณภาพพอ ๆ กับซีรีส์เน็ตฟลิกซ์บางเรื่องเท่านั้นเอง ว่ากันตรง ๆ มันน่าจะเหมาะกับการให้ครอบครัวดูอยู่บ้านผ่านพวกสตรีมมิงเท่านั้นก็พอ
แต่โชคดีที่ฝั่งพี่ไทยยังมีความส้มหล่น ได้ดูเรื่องนี้ในโรง
จึงได้ไปจัดตั้งแต่วันแรกที่เข้า
ปรากฏว่า ก็ตามนั้นแหละ
ไม่มีอะไรเหนือกว่าความคาดหมาย
ส่วนตัวคิดว่าหนังไม่ถึงกับแย่อะไร ดูได้เพลินๆ
เสียดายที่ฉากสยองขวัญอย่างในทีเซอร์แรกตอนโน้น
แทบจะหายกลายเป็นความแฟนตาซีแบบพวกFantastic4ขนาดย่อมไปหมด ทำให้ตัวหนังที่ไฮคอนเซปอยู่แล้ว พอเอามุกปล่อยพลังเดิมๆมาใช้ หนังก็แทบจะไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลย
คงจะมีข้อดีก็ตรงที่อย่างน้อย ดูหนังเรื่องนี้
ก็พอเห็นความตั้งใจร้อยเรียงเรื่องจนแทบไม่เห็นว่า
หลังม่านของการสร้างหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความวินาศสันตะโรแค่ไหน
ใครจะหนีเทเน็ท มาดูเรื่องนี้ก่อน
เราว่าก็เป็นอีกตัวเลือกที่ยังพอดูได้ ในช่วงนี้นะ
สุดท้าย ใครไปดูTENETมาแล้ว เป็นไง มาเม้าท์กันได้ในรีวิวลิ้งค์นี้ งงแค่ไหน มาระบายกัน
ดูหนังใหม่ได้ที่ ดูหนังใหม่
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ facebook 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *