รีวิว The Matrix Trilogy NEO

รีวิวหนัง บอกเลยว่าภาคนี้เป็นภาคที่ผมงงมากๆในตอนแรกว่า ‘ทำไมมันไม่ปะติดปะต่อ’ คือแบบมันจะเกิดอารมณ์ที่ว่า เห้ย คนนี้ใคร Zion คืออะไร แล้วคนนี้ NEO ไปช่วยไว้ตอนไหน Merovingian คือใครทำไมมันดูมีอำนาจจัง แล้วทำไม Agent Smith มันถึงได้ Multiply ตัวเองได้ขนาดนั้น แล้ว Sentinel

คืออะไร ทำไมมันเป็นหุ่นยนต์คล้ายปลากหมึกอะไรแบบนั้น แล้ว Trinity ฝันอะไร แล้ว คนที่อยู่ในภวังค์ตอนที่ NEO ไปติดนี่คือใคร Seraph ที่อยู่กับ Oracle นี่ใคร และยังมีคำถามอีกมากมาย แต่ภาคนี้เหมือนภาคแรกอยู่อย่างนึงครับคือ เค้าไม่ปล่อยให้เราสงสัยนาน แล้วเค้าก็เฉลยตามเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ จนเราเข้าใจปมทุกอย่าง และภาคนี้ครับ จบปลายเปิด จนทำให้อยากไปดูภาค Revolution ต่อไป

เป็น ‘การปฏิวัติ’ สมชื่อจริงๆครับ เพราะ Setup ของ 2 ภาคแรกที่ปูมานั้นส่งให้การคลายปมและฉาก Action ‘โคตรมันส์ถึงกึ๋น’ เลยครับ และเป็นภาคที่ผม ‘ชอบที่สุด’ ด้วยเอาจริงๆ และมีฉากการต่อสู้ช่วงกลางๆทีเป็นคล้ายหนังเรื่อง Transformer คือการสู้กับ Sentinel และแบบ คล้ายๆกับ Long Take โคตรมันส์ เอาจริง ๆผมว่ามันส์กว่าศึกดวลเดือด

ครั้งสุดท้ายระหว่าง NEO กับ SMITH อีก แต่ก็จะ Interpret(ตีความ) แบบนั้นไม่ได้เพราะเป็น Combat คนละรูปแบบกัน เพราะ การต่อสู้สุดท้ายนั้นคือ ‘ศึกตัดสิน’ ซึ่ง คนที่ดูและรู้ตอนจบแล้วจะรู้ว่า ความหมายของ ‘ผู้ปลดปล่อย’ อย่างแท้จริง

ต้องบอกเลยว่าภาคนี้เป็นการจบไตรภาค ของ The Matrix ที่ดี และทำให้ผมสนใจว่าภาค Resurrection (ปลายปี2021) จะเล่าออกมาในรูปแบบไหน จะเล่าใหม่เลยไหม หรือจะเล่าต่อเลย ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ

เนื้อเรื่องของหนัง The Matrix Reloaded

TThe Matrix Reloaded ภาคนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องราวของ นีโอ และ ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ ประชากรมนุษย์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เป็นเผ่าพันธุ์ใหญ่ ที่กำลังเตรียมการรับมือกับเครื่องจักรกล ที่ส่งหุ่นยนต์มาจัดการกับมนุษย์ และ ยังคงเป็นเรื่องราวของการต่อสู้กันในโลกที่จักรกลสร้างขึ้นเหมือนภาคแรกเช่นเดิม

โดยการต้องตามหาช่างทำกุญแจ และ การหาวิธีการที่จะกอบกู้โลก โดยสายลับสมิธตัวร้ายในภาคแรกก็เริ่มที่จะมีพัฒนาการมากขึ้นและเลวร้ายมากขึ้น ทำให้เป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นของนีโอ ในการจะช่วยเหลือเพื่อนๆ และ เผ่าพันธุ์ของมนุษย์

สิ่งที่ได้จาก The Matrix Reloaded

The Matrix Reloaded ทำให้เราได้เข้าใจและเรียนรู้ว่าความหวัง เป็นสิ่งที่ทุกคนมี แม้จะอยู่ในโลกที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีความเชื่อในเรื่องเหล่านี้อยู่ก็ตาม แต่เมื่อหนทางที่คาดหวังเอาไว้ มันยากจนไม่รู้ว่าจะได้พบเจอทางออกหรือไม่

สิ่งที่ทำได้ก็คือ โชคชะตาเราคงจะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว และ การมีความหวัง แม้มันจะน้อยนิดเพียงใดก็ตาม จงเดินไปตามความเชื่อมั่น และสุดท้ายจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับผลของมัน แต่ไม่ยอมแพ้และลุกขึ้นก้าวต่อไป จนวันที่สามารถเรียนรู้และเอาชนะอุปสรรคได้

 ในเรื่อง The Matrix ผมจะเล่าตามฉบับผมที่ผมเข้าใจนะ รวบๆทั้งสามภาค คือ เล่าเรื่องของการทำสงครามระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรกล ที่ทำมานานเป็น 100 ปี โดยผู้คนที่ยังไม่ถูกถอดปลั๊กที่อยู่ในมดลูกของพวกเครื่องจักร ก็จะดำเนินอยู่ในโลกที่หลอกลวง อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ โลก The Matrix นั่นเอง ใครที่ถูกถอดปลั๊กก็จะมาอยู่ในโลกความเป็นจริง โดยคนที่ยังไม่ถูกถอดปลั๊กจะปล่อยกระแสไฟฟ้าผลิตเป็นถ่านมาให้เครื่องจักรทำงาน โลกจริงที่เหลือรอดเพียงหนึ่งเดียวที่มนุษย์อาศัยอยู่ คือ

“ไซอ่อน ” อยู่ใต้แกนโลก เป็นเขตอบอุ่น ในเมืองไซอ่อนนี่ก็เหมือนเมืองหรือประเทศในโลกเสมือนจริงนี่แหละ มีกลุ่มรัฐบาล มีพวกทหารกองกำลังอยู่ เป็นสังกัด เป็นยาน (ยานใคร ยานมัน แต่ละยานจะมีกัปตันอยู่ ของพี่มืด มอร์เฟียรซ์ แกเป็นกัปตันยานนูเบอร์ซาเนเกอร์ ชื่อถูกปะว่ะ จำชื่อยานไม่ได้ 555)

คราวนี้แต่ละยานก็มีเครื่องเชื่อมต่อ เชื่อมไปยัง โลกที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์ ที่จะมีโอปาเรเตอร์ คอยควบคุมดูแลอยู่หน้าคอม ที่เห็นเป็นรหัส แต่ละยานลูกเรือก็ลักลอบเข้าไปใน The Matrix เพื่อหาคำตอบในนั่นเพื่อหาทางยับยั้งสงคราม มอเฟียรซ์ได้ไปหาเทพยากรณ์ซึ่งเป็นระบบหนึ่งใน The Matrix ที่เป็นโปรแกรมหนึ่งเดียวที่เป็นมิตรกับพวกผู้คนในไซอ่อน เทพยากรณ์ ได้คำนายว่า อีกไม่นานสงครามจะยุติ โดยพี่มอ (ผมขอเรียก มอเฟียรซ์ว่าพี่มอนะ) กับ ทรินนิตี้ ต้อง

ตามหาคนชื่อ “นีโอ” ผู้ซึ่งเทพยากรณ์บอกว่าเขาคือ หนึ่งเดียว ผู้ปลดปล่อย ที่จะหยุดยั้งสงครามได้ เมื่อพี่มอกับน้องทริน หานีโอพบก็ต้องแย่งชิงตัวนีโอกับพวกสายลับสมิธ พวกสายลับนี่คือหนึ่งในโปรแกรมในระบบ the matrix เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ถูกเขียนมาที่จะตรวจสอบระบบ กลุ่มคนที่ลักลอบเข้ามาในระบบ ก็จะถูกพวกสายลับจัดการ พี่มอ

และน้อมงทรินสามารถพานีโอมาได้ โดยตอนแรก นีโอ ไม่เชื่อเรื่องทั้งหมดที่พี่มอแกพูดเลยและกำลังสับสันอยู่ แต่พี่มอปักใจเชื่อสนิทว่า นีโอ นี่แหละคือผู้ที่จะยับยั้งสงครามในครั้งนี้ โดยที่เทพยากรณ์เคยพูดหรือพี่มอพูดนี่แหละ จำไม่ได้ว่าใครพูดไว้ว่า “ก่อนหน้านีโอจะมายับยั้งสงคราม เคยมีหนึ่งเดียว แบบนีโอมาแล้วถึงห้าคน” โดยที่เครื่องจักรก็ส่งพวกฝูงหมึกพิฆาตเข้ามาทำลายไซอ่อน เพื่อล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เหลือรอดให้ตายให้หมด เครื่องจักรจะได้ชนะสงคราม ตอนหลังเมื่อนีโอเริ่มมีศรัทธาตามพี่มอ แกก็มีฝีมือการ

ต่อสู้และการต่อกรกับพวกสายลับและสมิธได้แบบที่พี่มอและน้องทริน ไม่เคยเห็นใครทำได้มาก่อน ทั้งการหลบกระสุน การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว กระโดดสิงร่าง บินแบบ Superman ได้ ไหนจะสามารถหยุดกระสุนได้ด้วยมือเปล่า ทำให้ตอนนี้พี่มอและน้องทรินรู้แล้วว่า นีโอ นี่แหละคือ หนึ่งเดียว ผู้ปลดปล่อย ตัวจริงเสียงจริง โดยตอนแรกนีโอโดน

สมิธฆ่าตายแล้วด้วยซ้ำในภาคแรก แต่ด้วยพลังความรัก (รึเปล่าว่ะ 555) ที่เทพยากรณ์ได้คำนายบอกน้องทรินว่านางจะรักกับผู้ปลดปล่อย นั่นคือ นีโอ พอนางจูบนีโอเท่านั้น

แหละ แกฟื้นขึ้นมา โดยที่คราวนี้ดวงตาของแกเห็นเป็นรหัสเมทริกซ์ไปแล้ว และกระโดดสิงร่างฆ่าสมิธตาย ตอนภาคสอง ขณะที่เครื่องจักรส่งฝูงหมึกพิฆาตกำลังเจาะเข้ามาใน

ไซอ่อน พี่มอได้ขัดคำสั่งจากผู้บัญชาการล็อค โดยการทิ้งยานลำนึงได้ นอกไซอ่อน เพื่อรอการติดต่อของเทพยากรณ์ทิ้งให้นีโอไปเพื่อยุติสงครามนั่นเอง โดยภาคนี้ สมิธ กลับมาในฐานะ โปรแกรมเถื่อน (ใช่ไหม) แกไม่ได้เป็นสายลับแบบในภาคแรกอีกต่อไปแถมก็อปร่างได้หน้าตาเหมือนแกได้อีกเป็นร้อยเป็นพันตัว แถมแกยัง

ก็อปร่างแฝงร่างคนชื่อเบนเข้ามาในไซอ่อนด้วย จุดประสงค์ คือ ฆ่านีโอนั่นแหละ ภาคสองเทพยากรณ์ได้พบนีโออีกครั้ง โดยให้นีโอไปหาช่างทำกุญแจ ที่ถูกโปรแกรมเก่าโปรแกรมหนึ่งในเมทริกซ์ เป็นโปรแกรมเถื่อน ชื่อ “เมโรเวนเจี้ยน” ที่คุมขังช่างทำกุญแจไว้ โดยพี่มอน้องทรินและนีโอต้องต่อสู้ฝ่าฝันแย่งชิงช่างทำกุญแจมา เพราะตอนแรกไป

เจรจาแต่พวกเมโรไม่ยอมให้ ตอนหลังได้ตัวช่างมาก็ดันมาโดนสมิธฆ่าตายอีก ก่อนตาย แกพูดว่า “นีโอฝากลูกเมียข้าด้วย” เฮ้ย ไม่ใช่ล่ะ แกมอบกุญแจให้นีโอเป็นคนไขกุญแจไปพบวิศวกรผู้เขียนโปรแกรมเมทริกซ์ โดยที่บทสนทนาตรงนี้ ผมไม่รู้เรื่องเลยว่า

พอจะการันตีได้แล้วว่า ใจความหลักสำคัญของหนังเรื่องนี้เห็นจะเป็นความขี้โม้ที่มีพื้นฐานอยู่บนเหตุและผลทางความเชื่อในเชิงปรัญชา ด้วยเหตุนี้เอง Reloaded จึงกลายเป็นหนังภาคต่อที่ยกระดับความขี้โม้ให้มากขึ้นไปอีก จนกำไรทางความบันเทิงที่คนดูได้รับนั้นจัดอยู่ในระดับที่เรียกว่า กอบโกย

ด้วยความไม่บันยะบันยังของผู้สร้างส่งผลให้หนังภาคต่อเรื่องนี้ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉากแอคชั่นที่ขี้โม้เกินกว่าที่จะเรียกว่าพอหอมปากหอมคอ เพราะด้วยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากภาคที่แล้ว และการขยับขยายในระดับใหญ่โตมโหฬาร มันก็ทำให้ความดุเดือดเลือดพล่านในแต่ละท่วงท่าที่หนังมอบให้นั้นมากไปด้วยความบันเทิงเกินที่จะกู่กลับ

ในขณะเดียวกัน ด้วยเรื่องราวที่ถูกขยับขยายให้มีรายละเอียดและตัวละครที่มากขึ้น ทางผู้สร้างจึงสามารถเจียดเวลามาให้เหล่าตัวละครข้างเคียงได้มีพื้นที่และเวลาในการโชว์วิทยายุทธ์ของตัวเองอย่างหนำใจทั้งคนดูและนักแสดงมากกว่าในภาคที่แล้ว

เมื่อกล่าวถึงการขยับขยายเรื่องราว Reloaded ได้พาคนดูลงลึกไปยังอีกชั้นหนึ่งของโปรแกรม Matrix ที่มากไปด้วยข้อมูลในเชิงคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และปรัชญา ซึ่งด้วยความลึกนั้นเองที่ทำให้ความขี้โม้ของหนังกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อถึงจุดที่ทุกอย่างคลี่คลาย เพียงแต่ว่าการนำเสนอในภาคนี้แลดูจะมีชั้นเชิงที่ลึกซึ้งกว่าภาคที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ตัวละครพูดออกมาอย่างตรงตัวและอ้อมค้อม หรือก็คือ การดูหนังภาคนี้เปรียบเสมือนการฝึกสมาธิเพื่อรับข้อมูลที่จะถูกป้อนเข้ามาอย่างไม่เกรงใจกัน จนในบางที มันก็แลดูจะเกือบล้นไปสักหน่อยหากมากไปกว่านี้

กล่าวโดยสรุปได้ว่า Reloaded เป็นหนังภาคต่อที่ลึกซึ้งขึ้นอย่างไม่ธรรมดา ชั้นเชิงในแง่การเล่าเรื่องที่มากไปด้วยคารมคมคายกว่าในภาคที่แล้วเห็นจะเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวหนังของคนดู แต่ในทางกลับกัน ฉากแอคชั่นที่เสิร์ฟให้อย่างไม่มีทีท่าของความน่าเบื่อ มันก็พอที่จะทดแทนกับส่วนที่เป็นอุปสรรคได้อย่างเท่าเทียม