รีวิว the bay 24 ชม. แพร่พันธุ์สยอง
ดูหนัง สวีดัด สวัสดี คนรักหนัง และ ชอบดูหนังทุกท่าน วันนี้ เราจะมารีวิวหนัง แนวถือกล้อง ถ่าย สยองขวัญ กัน เรื่องนี้ นั้น เป็นเรื่องแรกเลยที่แอด อยากจะให้ทุกคนอ่านให้จบ ก่อนรับชมเอง แอดเตือรแล้วน้า 5555 ไปอ่านกันดีกว่า
จริงอยู่ที่ว่าภาพยนตร์แนว found footage นั้นมีอยู่ดาษดื่นและกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของภาพยนตร์ต้นทุนไม่สูงไปแล้ว The Bay เองก็เช่นนั้น มันเป็นภาพยนตร์ทุนต่ำที่ฉายในโรงสั้น ๆ แค่สองอาทิตย์พร้อมกับวางขายใน iTunes Store
ถึงกระนั้นการที่มันได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ภาพเราก็ไม่ใช่เรื่องที่เลว ร้ายแต่อย่างใด เพราะถึงแม้ว่าตัวหนังเองไม่อาจจะดำเนินไปได้ถึงจุดที่เรียกได้ว่าตราตรึง ประทับใจ และพึงพอใจ แต่มองกลับกันอีกด้าน The Bay เองก็ประกอบด้วยส่วนผสมต่าง ๆ ที่น่าสนใจรวมถึงประเด็นหลายอย่างที่ค่อนข้างเด่นชัดจนทำให้บางคนเผลอสะดุ้ง ดูหนังออนไลน์
ในขณะที่หนังแนว found footage ทั่วไปจะเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองแบบบุคคลที่หนึ่งเพียงคนเดียว (ผู้ชมรู้เท่ากับตัวละคร) แต่ในที่นี้ The Bay นำเสนอด้วยมุมมองจากบุคคลที่หนึ่งหลายบุคคล หลายด้าน หลายเวลามาผสมกันโดยพยายามอยู่ในเงื่อนไขของเรื่องราวภาพที่ถูกบันทึกไว้ใน กล้องต่าง ๆ
ดังนั้น The Bay จึงมีความก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความเป็นภาพยนตร์และสารคดีอยู่สูง เพราะนอกจากภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ แล้วมันยังมีผู้เล่าอย่างดอนน่า หญิงสาวนักข่าวสมัครเล่นที่รอดออกมาจากเหตุการณ์ในวันนั้น รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ ดังนั้นหนังจึงแทรกภาพเหตุการณ์ของ “ตัวละคร” คนอื่นเข้าไปในเรื่องด้วย เพื่อที่จะสร้างเส้นเรื่องขึ้นมาให้ชัดเจนขึ้น มิฉะนั้นแล้วหนังเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นสารคดีเต็มตัว ถึงกระนั้นเส้นเรื่องบางอันก็ไม่ได้น่าสนใจมากนักหรือทำไม่ถึง โดยเส้นเรื่องมีทั้งของตัวดอนน่า คู่สามีภรรยา ทีมนักวิทยาศาสตร์ หรือ นายแพทย์ แต่บางอย่างก็ไม่ได้จำเป็นมากนัก ดูหนังฟรี
รีวิว the bay 24 ชม. แพร่พันธุ์สยอง
ในตอนแรกต้องยอมรับว่าความเป็นปริศนาของ The Bay เป็นอะไรที่น่าสะพรึง เพราะผู้ชมอย่างเราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และ เพราะอะไรที่ร้ายแรงจนถึงขนาดทำให้เมืองทั้งเมืองหายนะภายในพริบตาดั่งที่ ตัวหนังเคยอวดตัวเองไว้ในตอนต้น
แต่ว่าข้อมูลที่หนังเตรียมมานั้นกลับกลายเป็นว่าไม่น่าเชื่อถือ บางครั้งก็ดูสับสนหรือนำผลมาเฉลยให้เราก่อนเหตุ อีกทั้งการที่พยายามอยู่ในกรอบของคำว่าสมจริงเกินไป จนทำให้ความสมจริงนั้นดูเป็นเรื่องโกหกที่ไม่น่าเชื่อถือ จนบ่อยครั้งสิ่งเหล่านี้เองจึงทำให้ตัวหนังผลักผู้ชมออกมาเพราะรู้สึกไม่ เชื่อใจ หากยกตัวอย่างได้ก็คือหนังนั้นพยายามที่จะยกสารพัดฟุตเตจมาเล่าเรื่องราวและ นำมาใช้อ้างอิงจนบางทีสามัญสำนึกของผู้ชมเองมันก็เตือนเราว่า เฮ้ย มันเป็นไปไม่ได้นะ ภาพมันจะบันทึกตอนไหนกัน รวมถึงคำถามอื่น ๆ ที่ตามมาอีกเป็นกระบวน
ส่วนหนึ่งยังเป็นเพราะเซตติ้งที่หนังพยายามสร้างขึ้นมาแต่แรกว่านี่คือ ข้อมูลที่รัฐบาลปกปิดแต่ทุภาพที่ถูกบันทึกไว้มันก็หลุดรอดออกมาได้แทบ ทุกอย่างตั้งแต่ภาพจากกล้องวงจรปิดจนถึงโทรศัพท์มือถือของใครไม่รู้ที่ตกน้ำ และกู้ข้อมูลคืนมาได้ ประกอบกับการที่หนังต้องการพยายามที่จะอธิบายทุกอย่างให้ผู้ชม ทุกอย่างต้องมีสาเหตุ ต้องมีที่มา แต่ว่าการที่ข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้มีพื้นฐานที่แข็งแรงหรือมั่นคงตั้งแต่แรก มันจึงทำให้ความน่าเชื่อถือและอารมณ์ร่วมของผู้ชมหายไป
ที่น่าเสียดายไปอีกอย่างหนึ่งก็คือการที่หนังขาดจุดกระแทกรุนแรงทั้งที่ มันสามารถเล่าหรือนำเสนอได้ อาจจะเป็นเพราะหนังต้องการเสนอตัวเป็น “ข้อมูล” มากกว่า มันจึงตัดฉากหายนะที่สามารถสร้างความพีคให้กับเรื่องให้อย่างสูงสุด เหลือเพียงแค่ฉากหลังหายนะที่ก็ไม่ได้ทำให้เราสะพรึงมากมายเท่าไหร่นัก สาเหตุส่วนหนึ่งหากไม่ใช่เรื่องของงบประมาณก็เป็นการที่เส้นเรื่องที่กำหนด เอาไว้แต่แรกบีบบังคับให้เรื่องราวต้องดำเนินไปเช่นนั้น เว็บดูหนัง
แม้ว่าด้วยส่วนผสมต่าง ๆ อาจจะทำให้ The Bay ดูไม่สมบูรณ์หรือสร้างความพึงพอใจได้ไม่ดีนัก แต่ทั้งวิธีการเล่าเรื่องสอดคล้องกับประเด็นบางอย่างที่น่าสนใจมันก็สามารถ โอบอุ้มค้ำชูเรื่องราวให้มีคุณค่ามากขึ้น
ไม่ว่าเป็นเพราะเหตุผลใดก็ตาม แต่ตามท้องเรื่องแล้วเรื่องราวการระบาดปริศนาใน The Bay นี้เป็นความลับของสาธารนะชน ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ตามเหตุผลของความมั่นคงพื้นฐาน การปิดกั้นแทรกแซงข้อมูลทางสื่อโดยรัฐบาล ไม่ต้องมองไปทางไหนไกล เพียงแค่เมืองนี้ก็มี ประชาชนผู้อยู่อาศัยตาดำ ๆ ก็ไม่มีใครสังเกตหรือเอะใจกับเหตุการณ์ที่จะเกิดเลย และไม่เพียงแค่นั้น ข้อกังขาที่เคยเกิดขึ้นหรือความห่วงใยของคุณภาพการใช้ชีวิต ประชาชนเองด้วยซ้ำที่ไม่คิดจะรับรู้ ดังการอภิปรายที่เราได้เห็นช่วงต้นของเรื่อง มันมากจากปากของประชาชนเองว่า “มลภาวะที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นไร ไว้เมืองเราร่ำรวยและเจริญแล้วค่อยเอาเงินมาบำบัดทีหลังก็ได้”
กลายเป็นว่าสิ่งที่ทำให้เกิดหายนะเหล่านี้ไม่ใช่เพราะคนใหญ่คนโตบีบ บังคับให้เกิดขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอย่างที่เราเคยชิน แต่เป็นทั้งประชาชนที่ยินดีให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเพื่อชีวิตที่อยู่ดีและสะดวกสบาย เว็บดูหนังฟรี
ความรู้สึกส่วนตัว
อีกประการหนึ่งคือเรื่องราวในหนังเรื่องนี้เหมือนเป็นการแสกหน้าความคิด ที่เชื่อว่าหากเรามีสื่ออยู่ในมือเราก็มีสิทธิและเสรีภาพ แต่สำหรับ The Bay หลายหลายคนมีสื่ออยู่ในมือทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ แต่จากเนื้อหาของเรื่องการที่มันถูกปกปิดเอาไว้ร่วมสามปีตั้งแต่ปี 2009 – 2012 นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ตื่นตะลึง มันยังตอกย้ำความเป็นจริงที่ว่าถึงจะเป็นยุคสมัยไหนเราก็สามารถถูกปิดกั้น และแทรกแซงได้ตลอดเวลา ไอ้โทรศัพท์ที่เราถ่ายวีดีโอได้ที่ถืออยู่สุดท้ายเมื่อเจออำนาจแม้กระทั่ง “หายนะ” สุดท้ายมันก็ทำได้แค่เพียงบันทึกภาพความวายวอดเพียงเท่านั้น
แล้วผลที่ได้เป็นยังไง? ก็ไม่เลวนะครับ ส่วนหนึ่งอาจเพราะผมชอบดูสารคดีอยู่แล้ว พอหนังเดินเรื่องแบบสารคดีอย่างนี้เลยเข้าทางครับ แม้จะมีการปรุงให้รสมันจัดบ้าง ให้เกิดความตื่นเต้นหรือสยองมากขึ้นบ้าง (แต่ปกติสารคดีสมัยใหม่ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นน่ะครับ ไม่ได้นำเสนอแบบราบเรียบพับเพียบเล่าอีกต่อไป)
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าหนังอาจเซอร์ไพรส์คนดูได้ไม่มากเท่าเรื่องอื่นๆ เพราะปกติหนังแนวนี้จะให้ตัวละครกลุ่มหนึ่งผจญภัยอะไรสักอย่าง แล้วเรื่องก็จะดำเนินไปยิ่งใกล้ไคลแม็กซ์เหตุการณ์ก็จะแรงขึ้น มีการพลิกผัน มีการหักมุม แต่กับเรื่องนี้มันเล่นอะไรไม่ได้มาก นอกจากเห็นภาพคนติดเชื้อค่อยๆ ตายไปเรื่อยๆ เห็นสภาพศพที่เละเทะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เหตุการณ์มันไม่หวีความรุนแรงหรือความตึงไปมากกว่าที่เป็น ซึ่งนี่ก็อาจเป็นข้อจำกัดหนึ่งที่ทำให้หนังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
The Bay ผลงานการกำกับของ แบร์รี่ เลวินสัน ผู้กำกับออสการ์ที่อายุก็ปาเข้าไป 70 ปีแล้ว ที่เราคงจะรู้จักผู้กำกับคนนี้ดี จากหนัง พี่ชาย ที่แสนดีอย่าง Rain Man ก่อนที่ผู้กำกับหลังๆส่วนมากจะหันไปกำกับหนังทางทีวีอย่างเช่น You Don’t Know Jack เสียมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ผู้กำกับคนนี้ก็กลับมาแล้ว พร้อมกับหนังที่พยายามจะฉีกกรอบความเป็นหนังดราม่าของตนเอง กับการกระโดดมากำกับหนังแนว ฟุตเทจ ที่ตอนนี้กำลังเกลื่อนตลาดทั่วโลกอยู่มากมาย และก็ไม่รู้ว่านั้นเป็นเหตุที่ทำให้หนังเรื่องนี้ของผู้กำกับชื่อดัง ได้ออกฉายในอเมริกาแค่เพียงน้อยนิดโรง และปล่อยให้ดาวน์โหลดบน iTunes กันเลยรึปล่าว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในบ้านเราก็ได้เข้าฉายกันมาตามระเบียบ และเป็นหนังเปิดต้นปี 2013 เสียด้วย ที่ตัวหนัง The Bay เป็นหนังฟุตเทจที่อิงจากเหตุการณ์จริง
ที่เกิดขึ้นในปี 2009 กับการปลาหลายล้านตัว ที่ต้องตายเกลื่อนเนื่องด้วยสาเหตุของ แมงกินลิ้น หรือ เห็บปลา นั้นเอง ว่าแล้วผู้กำกับเลยเอาเหตุการณ์ดังกล่าวมาผูกเรื่อง แต่งสี เติมกลิ่น เข้าไปจนกลายเป็นหนังระทึกเสียเลย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมก็เป็นที่ไม่ได้ชื่นชอบหนังแนวฟุตเทจสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น Paranormal Activity 1-4 , Apollo 18 หรือแม้แต่ Cloverfield ไม่ใช่เพราะว่าตัวหนังนั้นมาพร้อมกับภาพสุดมึนหัว แต่ส่วนตัวกลับรู้ว่าหนังพวกนี้มันตั้งใจจะขายไอเดียในการถ่ายภาพ และ ฟุตเทจ เสียมากกว่าจะขายตัวเรื่อง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่เช่นนั้นกับ The Bay ที่ลบคติ และสิ่งที่หนังฟุตเทจเรื่องก่อนๆทำมา
ด้วยการใส่ทั้ง ดนตรีประกอบ ที่ทำให้ตัวหนังเรื่องนี้ระทึกจนทำให้เราไม่ได้รู้สึกว่าดูหนังฟุตเทจลวงๆอยู่ แต่กำลังดูหนังทริลเลอร์ ลุ้นระทึก เรื่องนึงอยู่ตั้งหาก เพราะดูเหมือนในข้อนี้ผู้กำกับจะรู้อยู่แล้วว่าจะพยายามหลอกคนดูอะไรไปก็คงจะไม่มีใครเชื่อกันอีกแล้วในสมัยนี้ ว่าแล้วเขาเลยจัดเต็มด้าน ดนตรีประกอบ และ ภาพ ข้อมูล ต่างๆอีกหลายอย่าง รวมทั้งใส่ชื่อ ผู้กำกับ และ ทีมงาน หลัง เอ็น เครดิต (ที่ปกติหนังฟุตเทจส่วนมากจะไม่ใส่) เข้ามาอีกด้วย โดยก็ดูเหมือนว่าผู้กำกับจะค่อนข้างคิดถูกทีเดียวกับการที่ใส่ ดนตรีประกอบ เข้ามา เพราะเมื่อรวมกับการ ตัดต่อ ของตัวหนัง มันจึงทำให้ The Bay ถือว่าเป็นหนังฟุตเทจที่ทำออกมาได้ระทึก และ กดดัน ที่ดูสนุก ไม่น่าเบื่อ เหมือน Paranormal Activity เลยก็ว่าได้ แถมดูเหมือนผู้กำกับ แบร์รี่ เลวินสัน ก็ยังจะไม่ทิ้งลายออสการ์ไปง่ายๆ
เมื่อตัวหนัง The Bay ยังมีลูกเล่นในการเสียดสีเรื่องต่างๆในสังคม ไม่ว่าจะเป็น ความเห็นแก่ตัว ที่หวังผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม , การเชื่อมโยงเรื่องภาวะโลกร้อน มาให้เห็นว่า เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรแปลกๆคนเราก็มักจะโทษสิ่งนี้ก่อนเสมอ โดยที่ไม่ได้คิดจะหาทางแก้ไขตั้งแต่ต้นเหตุสักเท่าไหร่ หรือแม้แต่ พฤติกรรม ของวัยรุ่น เมื่อเจอโรค เจ็บไข้ได้ป่วยแปลกๆ แต่กลับเลือกที่จะปรึกษาเพื่อนก่อนหมอ และ ครอบครัว เสมอ แต่ก็อย่างว่า ถึงแม้ตัวหนังจะมีการตัดต่อ และ ประเด็นเสียดสีๆต่าง ที่ผมดูแล้วค่อนข้างชอบ แต่ใครที่ไม่ถูกใจหนังแนว ฟุตเทจ เป็นทุนเดิม แถมยังคิดอีกว่ามันเชย และ น่าเบื่อมากแล้วในยุคสมัยนี้
The Bay ก็น่าจะเป็นหนังที่ไม่ค่อยถูกอกถูกใจคุณสักเท่าไหร่นัก เพราะหนังก็มีลูกเล่นๆต่างในการเล่าเรื่องเหมือนหนังฟุตเทจเรื่องต่างๆนั้นแหละ แถมทางด้านตัวบทก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่มากเหมือนกัน เมื่อตัวหนังได้เล่นสเกลที่ค่อนข้างใหญ่กับ น้ำดื่ม ซึ่งใครจะชอบ ใครจะไม่ชอบ ก็ต้องแล้วแต่รสนิยม