รีวิว The Artist
ปีนี้ มีหนังเข้าชิงลูกโลกทองคำ หนังเข้าชิงออสการ์เข้าฉายในไทยหลายเรื่อง กลายเป็นว่าช่วงนี้ของปีจะเป็นช่วงเวลาแห่งการตามล่าดูหนังอย่างเมามัน ซึ่งบอกตรงๆ ว่า บางทีก็คงไม่สามารถจะเก็บจนครบได้ เพราะส่วนใหญ่ จ่ายแลกกับสิทธิ์การดู แต่
เนื้อเรื่อง รีวิว The Artist
ถ้าหากมีโอกาสได้ชมรอบพิเศษวันใด ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะกระโจนเข้าใส่ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง อย่างเช่นวันนี้… ผมตอบรับคำเชิญชวนจาก น้องชา บล็อกเกอร์ผู้ชื่นชอบการดูหนังอีกคนหนึ่ง เพื่อไปเข้าชม “The Artist” หนังที่ล่ารางวัลกับเขาอีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องย่อ รีวิว The Artist
ที่วันนี้มีการกาล่าพรีเมียร์เปิดตัวการฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศไทย ที่โรงภาพยนตร์ Scala ที่ผมเพิ่งมาชม “The Descendants” ไปหมาดๆ เมื่อวานนี้เอง
หน้างานเขามีงานเลี้ยงย่อมๆ มีแชมเปญ ไวน์ น้ำอัดลม น้ำดื่ม และของว่างเล็กๆ น้อยๆ เลยสองทุ่มไปไม่นานก็ได้เวลาเข้าโรงไปพบกับความหรรษาในรูปแบบหนังเงียบสีขาว-ดำที่ประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์เคยผ่านวันนั้นมา ดูหนัง
The Artist เป็นหนังอีกเรื่องที่สดุดีถึงยุคหนังเงียบเฟื่องฟูเช่นเดียวกับ Hugo แต่ทีมงานและผู้กำกับฯ เลือกที่จะเล่าด้วยความเป็นหนังเงียบอย่างเต็มๆ เรื่อง ทั้งการดำเนินเรื่องก็แทบจะไร้บทพูด ช่วงตัวละครสนทนาก็จะใช้ตัวอักษรแสดงประโยคเหล่านั้น
แทน แต่บางครั้งก็เลือกที่จะไม่แสดงตัวอักษร หากว่าภาษาท่าทางของตัวละครบ่งบอกความหมายที่ชัดเจนพออยู่แล้ว ขณะที่ภาพบนจอก็บีบแคบเข้ามาตามลักษณะของฟิล์มหนังสมัยนั้น เรียกว่า เลียนแบบความเป็นหนังเงียบในยุคสมัยนั้นเสียทุกอย่างเลยล่ะ
ขณะที่ Hugo (3D) เลือกที่จะหยิบประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นและเฟื่องฟูในยุโรป (โดยเฉพาะในฝรั่งเศส) แต่ ‘The Artist’ เลือกที่จะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เป็นช่วงเวลาที่หนังเงียบแผ่ขยายเข้ามาเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา
เรื่องของ George Valentin (Jean Dujardin) นักแสดงหนุ่มผู้โด่งดังในยุคหนังเงียบ แถมทะนงตนในความดังของตนเอง เขาเป็นดาราผู้มีชื่อเสียงมากมายในสมัยนั้น จนวันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับ Peppy Miller (Bérénice Bejo) สาวน้อยผู้คลั่งไคล้เขามากมาย และพยายามเข้าวงการเดียวกับเขา ความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นแต่ไม่อาจสานต่อเพราะเขาเองก็มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ส่วนมิลเลอร์ แม้เธอจะชอบเขาอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ก้าวข้ามไปได้มากกว่านั้น
ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนผัน เมื่อหนังยุคใหม่เข้ามา มันไม่ใช่ยุคของ “หนังเงียบ” อีกต่อไป ยุคสมัยถูกส่งต่อให้กับ “หนังพูด” ยุคสมัยของวาเลนตินก็เงียบลงไปด้วย ขณะที่มิลเลอร์กลับฉายแสงเจิดจรัสอย่างมากมาย หากแต่เขายังเชื่อมั่นว่าหนังเงียบไม่มี
วันตาย ดื้อดึงจะทำหนังเอง แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เขากลายเป็นคนตกอับ ไม่มีใครจดจำเขาอีก ต้องประคองตัวเองไปด้วยการจำนำ และ ขายข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว แล้วชีวิตหลังจากนี้จะเป็นเยี่ยงไร ดูหนังออนไลน์
กับพล็อตเรื่องที่เรียบง่าย แม้ไม่ได้แปลกใหม่นัก แต่ด้วยกลวิธีการเล่าผ่านแบบหนังเงียบก็ทำให้สามารถใส่ลูกเล่นต่าง ๆ เข้าไปเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับการเล่าได้ ซึ่งการเล่าบางอย่าง ไม่สามารถจะใช้ในหนังได้เลย ถ้าไม่ได้เล่าออกมาในแบบหนัง
เงียบเช่นเรื่องนี้ ตัวเอกของหนังก็ไม่ได้มีแค่ วาเลนติน แต่ยังเป็นเจ้าสุนัขแสนรู้แสนน่ารักที่ทำเอาผู้ชมหัวเราะชอบใจ เป็นสีสันเป็นสำคัญยิ่งของหนังเรื่องนี้
“ความเปลี่ยนแปลง” ปมใหญ่ของเรื่อง ‘บรรเลงฝัน บันดาลรัก’ ถ้าจะว่าไปก็ไม่ได้ต่างจากที่ Hugo สื่อสารกับเรา ทั้งต่างก็ยังเป็นภาพยนตร์ที่ตั้งใจสดุดีช่วงเวลาของหนังเงียบ หนังสีขาวดำและไร้เสียงใดๆ นอกจากวงดนตรีที่บรรเลงสดประกอบ ลีลาการแสดงที่ทำให้คนเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงอาจเห็นการแสดงที่ดูโอเวอร์แอ็คติงแต่เราเข้าใจความหมาย สิ่งที่ The Artist แตกต่างก็คือ การหยิบความเป็นหนังเงียบมาเล่าอย่างเต็ม ๆ นั่นเอง
ในตอนแรกมีข่าวมาบอกว่าจะไม่มีค่ายหนังค่ายไหนซื้อหนังเรื่องนี้มาฉายเลย เพราะว่าค่าฟีลม์มันแพงเหลือเกิ้น แต่แล้วอยู่มาดีๆวันนึง ค่าย UNITED ก็ได้ตัดสินใจนำหนังเรื่องนี้มาฉาย ซึ่งผมคงต้องขอบคุณอย่างมากที่ทำให้ผมได้ดูหนังเงียบขาว-ดำ ที่เต็งหนึ่งรางวัล ออสการ์ เรื่องนี้ในโรงหนังอย่าง สกาล่า เลยครับ
ภาพยนตร์เต็งหนึ่งออสการ์ปีนี้ เล่าเรื่องในยุคของฮอลลีวู้ด ปี 1927 จอร์จ วาเลนติน คือดาราหนังเงียบชื่อดัง ที่ได้พบกับเป๊ปปี้ มิลเลอร์ หญิงสาวที่เป็นแฟนหนังของเขาในรอบสื่อมวลชนอย่างบังเอิญ ต่อมาเป๊ปปี้ได้รับการคัดเลือกจากจอร์จให้มาเป็นแดนเซอร์ในหนังใหม่ของเขา และทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียง แต่การมาของหนังเสียงทำให้อาชีพของจอร์จเริ่มลงดิ่ง สวนทางกับเป๊ปปี้ที่ฉายแววเจิดจรัสขึ้นทุกวัน และความรักอันยาวนานของทั้งสองก็ได้ถูกกาลเวลาและชื่อเสียงเป็นตัวทดสอบเรื่องราวของชีวิตสุดรันทนของนักแสดงหนังเงียบนี้ เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์เครือ SF และโรงภาพยนตร์ Apex
The Artist กำกับการแสดงโดย ไมเคิล ฮาซาวินิเซียส ผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ที่บ้านเรานั้นคงไม่ค่อยจะคุ้นชื่อกับนายคนนี้สักเท่าไหร่ เพราะผลงานหนังฝรั่งเศสของเขาไม่ได้มีโอกาสหลุดรอดมาฉายในไทยเลยแม้แต่เรื่องเดียว แต่อย่างไรก็ตามวันนี้
หนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรกของเขาได้มาฉายไทยแล้วกับ The Artist หนังที่ทำสวนกระแสกับเหล่าทัพหนัง 3D สมัยนี้ด้วยการนำออกฉายเป็นหนัง ขาว-ดำ และเป็นหนังเงียบ โดยถ้าพูดถึงหนังเงียบนั้นผมก็ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้โปรดปราน หรือว่า
ชอบดูหนังเงียบมากสักเท่าไหร่ โดย The Artist เป็นหนังเงียบเรื่องที่ 2 ที่ผมเคยดูในชีวิต (โดยเรื่องแรกรู้สึกว่าจะเป็น Modern Times ของ ชาร์ลี แชปปิน) ซึ่งหลังจากผมได้ดู The Artist นั้นก็อดที่จะพูดไม่ได้เลยว่า ผมนั้นเริ่มหลงใหลเข้ากับเสน่ห์ของหนังเงียบเข้าซะแล้ว ดูหนัง 4k
โดยการที่ The Artist นั้นเลือกตัวที่จะฉายและนำเสนอออกมาเป็นหนังเงียบ ที่เน้นการสื่อสารด้วย ภาษากาย มากกว่า ภาษาพูด ด้านตัวหนังจึงได้มีโอกาสเปิดให้นักแสดงนั้นได้โชว์ลีลาอย่างเต็มที่ โดยต้องยกให้กับนักแสดงหลักของหนังอย่าง ฌอน ดู
จาร์แด็ง และ เบเรนีซ เบโจ โดยด้านฝ่ายชายอย่าง ฌอน ดูจาร์แด็ง ที่ต้องรับบทเป็น จอร์จ วาเลนไทน์ นักแสดงหนังเงียบที่ต้องตกงานเพราะการมาของหนังมีเสียง ที่ต้องขอชมด้านความสามารถในการแสดงของเขาจริงๆ ที่สามารถคุมโทนอารมณ์หนังโรแมนติคเรื่องนี้ได้อย่างมีเสน่ห์ และสามารถทำให้ตัวละครอย่าง จอร์จ วาเลนไทน์ รู้สึกจับต้องได้
โดยในด้านของฝ่ายหญิงอย่าง เบเรนีซ เบโจ ก็สามารถรับบทสาวน้อยธรรมดา แต่มีความสามารถสูงอย่าง เป๊ปปี้ มิลเลอร์ ได้อย่าง งดงาม และเมื่อไหร่ที่เธอปรากฏนั้นรับรองว่าคนดูคงได้หลงเสน่ห์รอยยิ้มของเธออย่างแน่นอน ผสมผสานไปด้วยดนตรี
ประกอบของหนังที่แต่งโดย ลูโดวิค โบรซ นั้นก็ยังสามารถช่วยเพิ่มมนตร์เสน่ห์ให้หนังอย่างดีเยี่ยม เพราะตัวหนังนั้นเป็นหนังเงียบที่จะไม่มีบทพูด จึงมีหลายส่วนที่เปิดโอกาสให้กับ ดนตรีประกอบ ได้โชว์ให้คนดูเห็นเลยว่า แค่สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า ดนตรี นั้นก็ยังสามารถควบคุมโทนหนังได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้กับนักแสดง หรือ บทพูดคมๆ สำหรับคนในสมัยนี้แหละ
แถมการที่หนังเลือกใช้โจทย์ประเภทว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับนักแสดงยุคหนังเงียบ เมื่อมีหนังเสียงเข้ามาแทนที่ จึงทำให้หนังสามารถส่งข้อมูล และ ประเด็น ทั้งหลายมากมายให้แก่คนดูได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นการที่หนังสงสารว่า เราไม่สามารถ
ทำอะไรกับการเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งเดียวที่เราทำได้คือ การปรับตัว โดยเปรียบเสมือนกับตัวละคร จอร์จ วาเลนไทน์ นักแสดงหนังเงียบ ที่มีอุดมคติแน่วแน่ว่า ยุครุ่งเรือง ของหนังเงียบนั้นยังไม่หมดไปแน่ๆ แต่เขาหารู้ไม่ว่า อุดมคติ เล็กๆของเขาก็ไม่
สามารถเปลี่ยนแปลง เสียงข้างมาก ได้อย่างแน่นอน มีวิธีเดียวถ้าเขาอยากจะอยู่ในสังคมหนังเสียงนี้รอดคือ การปรับตัว ครับ ดูหนังออนไลน์ 4k
แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นด้านนักแสดง ดนตรีประกอบ ประเด็นต่างๆ หรือสิ่งทั้งหลาย ก็ไม่ได้เป็นพระเอกหลักของหนังเรื่องนี้ที่ทำให้หนังเรื่องดูดี เพราะสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกติดใจ The Artist จริง ๆ นั้นกลับเป็นด้านของ มนตร์เสน่ห์ และ ความสนุกสนาน
กับหนังยุคเก่าๆอย่าง หนังเงียบ ที่คงพูดได้เลยว่า ใครก็ตามที่ได้รับชม The Artist แล้ว หนังที่มีบทพูด มีเสียง เรื่องต่อๆไปที่คุณจะได้รับชมหลังจาก The Artist คงจะดูไม่ค่อยสนุกกันแล้ว เพราะว่า The Artist นั้นจะเป็นหนังที่ฉุดเอาคุณไปอยู่ในยุค
สมัยความรุ่งเรืองของหนังเงียบ และคุณจะไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่า คุณไม่ได้ชอบมัน โดยเฉพาะใครที่ยังไม่เคยรับชมหนังเงียบ หรือไม่รู้จักหนังเงียบ เลยสักนิด ผมอยากให้ชมเรื่องนี้มาก ๆ ครับ เพราะว่าคุณจะได้รับรู้เลยว่า การถ่ายทำ หนังเงียบ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด รีวิวหนัง