รีวิว candyman

 

รีวิวหนังฮิต ปี 2020 เป็นอีกหนึ่งปีที่มีหนังสยองขวัญเข้าฉายหลายเรื่อง และส่วนมากก็ยังคงแนวคิดทุนต่ำแต่หวังทำกำไรสูงแม้จะเป็นหนังสตูดิโอใหญ่ อย่างเช่น The Invisible Man ของค่าย Universal Pictures ที่กำลังจะเข้าฉายเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของทุนสร้าง 7 ล้านเหรียญฯ และได้รับการคาดหมายว่าจะเปิดตัวเกิน 20 ล้านเหรียญฯ รวมถึงปิดโปรแกรมระดับใกล้ ๆ 100 ล้านเหรียญฯ ในสหรัฐฯ เลยทีเดียว ขณะเดียวกันหนังสยองฟอร์มดีอีกเรื่องของค่ายเดียวกันอย่าง Candyman ก็ปล่อยตัวอย่างแรกออกมาแล้ว ซึ่งเป็นฉบับรีเมกของหนังปี 1992 ที่เคยใช้ชื่อไทยว่า “เคาะนรก 5 ครั้ง วิญญาณไม่เรียกกลับ”
รีวิว candyman
หนังได้ Jordan Peele ที่สร้างชื่อเสียงมาจาก Us (2019) และ Get Out (2017) มารับหน้าที่อำนวยการสร้าง ในหนังสยองขวัญที่นำแสดงโดยตัวละครหลักที่เป็นแอฟริกัน-อเมริกัน และมีประเด็นเหยียดผิวแฝงในเรื่องด้วย โดยต้นฉบับที่ออกฉายในปี 1992 ดัดแปลงจากเรื่องสั้น “The Forbidden” ในซีรีส์ Book of Blood ของ Clive Barker
รีวิว candyman
“Candyman” ของผู้กำกับ Nia DaCosta กำลังถูกขายเป็น “ภาคต่อทางจิตวิญญาณ” ของหนังสยองขวัญคลาสสิกปี 1992 ที่นำแสดงโดย Virginia Madsen และ Vanessa Williams การทำซ้ำนี้เพิกเฉยต่อภาคต่อที่เกิดขึ้นจริงทั้งสองภาคต่อของนักเขียน/ผู้กำกับที่ดัดแปลงจากเรื่องสั้นของ Clive Barker ของนักเขียน/ผู้กำกับ เบอร์นาร์ด โรส แทนที่จะหยิบขึ้นมาในชิคาโกในปัจจุบัน The Cabrini Green ที่ตัวละคร Helen Lyle ของ Madsen ได้พบกับชะตากรรมอันน่าสยดสยองของเธอไม่มีอีกแล้ว หอคอยถูกรื้อถอนและบริเวณนั้นกำลังได้รับการฟื้นฟูภายในหนึ่งนิ้วของชีวิต หาก Lyle รอดชีวิต เธอคงจะอาศัยอยู่ในสถานที่เหมือนของศิลปิน Anthony McCoy (Yahya Abdul-Mateen II) “คนผิวขาวสร้างสลัม” Brianna (Teyonah Parris) แฟนสาวของเขาบอกกับ Troy (Nathan Stewart-Jarrett) น้องชายของเธอ “และจากนั้นก็ลบทิ้งเมื่อรู้ว่าพวกเขาสร้างสลัมนี้ขึ้นมา” นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ยินเกี่ยวกับการแบ่งพื้นที่

รีวิว candyman

รีวิว candyman

ทรอยเป็นผู้ที่นำผู้ชมใหม่ๆ มาสู่ความเร็ว โดยหมุนเรื่องราวอันน่าสลดใจของภาพยนตร์เรื่องแรกให้กับผู้ชมที่เป็นเชลยของเขาหลังจากเตือนพวกเขาว่าที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นมีผีสิง “เรื่องนี้มากเกินไป แม้กระทั่งสำหรับคุณ” เกรดี้ (ไคล์ คามินสกี้) สามีของเขาพูดถึงบทนำของร็อตไวเลอร์ที่ถูกตัดหัว ลำดับนี้ทำด้วยหุ่นเงาประเภทเดียวกับที่ใช้สำหรับ
ตัวอย่างทีเซอร์ของ “Candyman” บทสรุปที่มีประสิทธิภาพดังกล่าวได้เน้นย้ำถึงหนึ่งในธีมหลักที่ DaCosta และผู้ร่วมเขียนบทของเธอ Jordan Peele และ Win Rosenfeld ใส่ไว้ในสคริปต์ของพวกเขา นั่นคือ วัฏจักรความรุนแรงที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งกระทำบนร่างคนผิวดำโดยอำนาจสูงสุดของ White และระบบที่สร้างขึ้น แนวคิดนี้หลอมรวมเข้ากับเรื่องราวของ Daniel Robitaille (Tony Todd) เวอร์ชันปี 1992 ซึ่งเป็น Candyman ดั้งเดิม แต่เน้นไปที่ชะตากรรมของตัวเอกของ White เป็นหลัก
โดยมีอับดุล-มาทีนและพาร์ริสเป็นผู้นำ ทีมผู้สร้างมีอิสระที่จะขุดลึกลงไปในตำนานและความคล้ายคลึงของตำนานที่นี่และตอนนี้ ผู้รับมอบฉันทะคือวิลเลียม (โคลแมน โดมิงโก) เด็กเก่าที่เราเห็นครั้งแรกในฐานะนักเชิดหุ่นเด็กในปี 1977 เขาได้พบกับแอนโธนีหลังจากที่คนหลังๆ กระโดดลงไปในเงามืดอย่างสนุกสนานเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รถตำรวจขับผ่าน
ไป “พวกเขาปกป้องเราให้ปลอดภัย” วิลเลียมถาม “หรือกักขังเราไว้” วิลเลียมกล่าวพาดพิงถึงสื่อมวลชนที่เฮเลนไลล์ได้รับในขณะที่เหยื่อผิวดำจำนวนมากของ Candyman ยังคงไม่เป็นที่รู้จัก วิลเลียมกล่าวว่า “ผู้หญิงผิวขาวคนหนึ่งเสียชีวิตและเรื่องราวจะคงอยู่ตลอดไป” สิ่งนี้เข้ากันได้ดีกับตำนานของ Candyman—นี่คือตัวตนที่ความเป็นอมตะ
สามารถรับรู้ได้ด้วยการบอกชื่อของเขา (และโดยการขยายความทรงจำของโศกนาฏกรรมของเขา) เท่านั้น องค์ประกอบกระจกซึ่งเป็นสิ่งที่หลงเหลือจากตำนานเมือง Bloody Mary เก่าเป็นสัญลักษณ์ที่ดีมากมาย ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมองเห็นอะไรในตัวเองก่อนที่จะถูกตะขออย่างแท้จริง?
แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อเรื่องราวของทรอย แอนโธนีก็ได้รับแรงบันดาลใจให้มองเข้าไปในประวัติศาสตร์ของละแวกบ้านด้วยความหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพวาดใหม่ๆ ที่เขาสามารถนำมาแสดงที่แกลเลอรีที่ดำเนินการโดยไคลฟ์ พริฟเลอร์ (ไบรอัน คิง) วิลเลียมนำเสนอเรื่องราวของแคนดี้แมนเพิ่มเติมโดยอิงจากประสบการณ์ในวัยเด็กของเขาที่
พบเจอกับชายแปลกหน้าในท้องถิ่นที่มีตะขอเกี่ยว เช่นเดียวกับแดเนียล โรบิแทลล์ เขาถูกกลุ่มคนร้ายฆ่าอย่างทารุณโดยกลุ่มคนที่ผ่านกฎหมาย จากนั้นจึง “เคลียร์” อาชญากรรมที่เขาถูกกล่าวหาว่ากระทำการมรณกรรม “Candyman” เสนอว่าสัตว์ประหลาดของมันยังมีชีวิตอยู่ ถูกขังอยู่ในความทุกข์ทรมานของเขาเพราะประวัติศาสตร์เฉพาะนี้
ยังคงซ้ำรอยเดิม ฉันนึกถึงบทประพันธ์ของโอปราห์ในเรื่อง “Beloved” ซึ่งเธอพูดถึงวิญญาณที่หลอกหลอนบ้านของเธอว่า “ไม่ชั่วร้าย แค่เศร้า” “Candyman ไม่ใช่เขา” วิลเลียมบอกแอนโธนีก่อนเตือนให้เขาอยู่ห่างๆ “เขาคือรังทั้งหมด”

สรุปโดยรวม

จากตัวอย่างของฉบับปี 2020 ดูจะเป็นภาคต่อของฉบับปี 1992 มากกว่าจะเป็นการรีเมกเรื่องราวใหม่ ตัวเอกเปลี่ยนเป็นศิลปินหนุ่มนักจิตรกร “แอนโธนี แม็คคอย” รับบทโดย Yahya Abdul-Mateen II จาก Aquaman (2018) และกำลังจะมีบทสำคัญใน The Matrix 4 เขาได้ย้ายมาอยู่ในย่านเดียวกับที่เคยเกิดเหตุการณ์สยองขวัญขึ้น ซึ่งผู้คนได้หลงลืมตำนานสยองไปแล้ว เขาเริ่มหมกมุ่นกับเรื่องราวของปิศาจแคนดี้แมนและอาจมีส่วนโดยไม่รู้ตัวที่ทำให้ปิศาจกลับฟื้นคืนชีพ แอนโธนียังเป็นลูกของ “แอนแมรี แม็คคอย” ที่เป็นตัวละครจากฉบับปี 1992 รับบทโดย Vanessa Williams ซึ่งน่าจะมีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงมาถึงภาคใหม่นี้ด้วย
นับเป็นการ เจรจาธุรกิจที่ทำให้ Robitaille ที่น่าสงสาร ต้องสูญเสียเลือดเนื้อและวิญญาณลงในท้ายที่สุดบิดาของ Caroline โกรธกริ้วจนหูตามัว เมื่อทราบว่าบุตรสาวใสซื่อบริสุทธิ์ของเขาพลอดรักกับคนผิวดำ ด้วยคิดว่าชื่อเสียงวงศ์ตระกูลจะต้องอัปยศอดสู หนทางเดียวที่จะไถ่บาปนี้ได้คือกำจัด Robitaille เขาส่งกองทัพมนุษย์ออกตามล่าตัวคนรักของบุตรสาว เข้าป่าไปจนหมดทางหนี และแล้วก็เลื่อยมือขวาของเขาทิ้งอย่างเหี้ยมโหด โดยใช้ตะขอเกี่ยวเนื้อเสียบเข้าไปแทนที่มือที่มีพรสวรรค์นั้นแบบสดๆ ทั้งที่ยังมีเลือดไหลนองอยู่ เพื่อให้เขาไม่สามารถเขียนรูปได้อีกต่อไป ความโหดร้ายยังไม่สิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น พวกมันยังไล่ล่ารวงผึ้งจากรังผึ้งแล้วเอาน้ำผึ้งชโลมทั่วตัว Robitaille ทำให้บรรดาผึ้งโกรธจัดที่รังของพวกตนถูกทำลาย จึงโผเข้ากระหน่ำความหวานที่ฉาบตัว Robitaille ซึ่งบาดเจ็บโชกเลือดอยู่ เหล็กไนของผึ้งค่อยๆ เจาะซอกเซาะร่างกายซึ่งยังมีชีวิตของ Robitaille ที่กำลังเจ็บปวดชักดิ้นชักงออยู่
พลันนั้นบิดาของ Caroline ก็โผล่หน้าขึ้นมากลางฝูงชน แล้วยื่นกระจกเงาส่องไปที่ใบหน้าของเหยื่อ แล้วเยาะเย้ยว่า “คิดว่าลูกสาวข้ายังจะต้องการเจ้าอยู่อีกหรือ” ใบหน้าของ Robitaille เสียโฉมไปสิ้นด้วยพิษของเหล็กไน ที่ทั้งเจาะไชและต่อยเขาจนน่วมไม่อาจปะติดปะต่อตัวเองในกระจกได้ เขาจ้องมองร่างกายบวมฉึ่งอาบเลือดของตัวเองในขณะที่ฝูงชนโห่ร้องเรียกเขาว่า Candyman
หลังจากนั้นก็มีเรื่องเล่าว่าวิญญาณของชายคนนั้นไม่ได้ไป ไหนรอวันชำระแค้น และวิธีที่จะเรียกเขามากลับมาปรากฏตัวให้เห็นนั้นก็คือ ให้เรียกชื่อ แคนดี้แมน 5 ครั้ง… ตรงหน้ากระจกแล้วเขาก็จะมาหา… และใช้มือตะขอตามฆ่าคนผู้นั้นให้ตายอย่างสยดสยองที่สุด
เป็นเรื่องราวสยองขวัญในตำนาน เรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง ของ Clive Barker หากท่านคาดหวังว่า Candyman Series จะเป็นภาพยนต์สยองระทึกขวัญตามแบบฉบับทั่วไปล่ะก็ ท่านอาจจะต้องผิดหวังครับ มีเพียงภาคแรก เท่านั้น ที่ทำออกมาได้ดี ครบเครื่องเรื่องสยองขวัญหน่อย ทั้งในเรื่องของฉากและบรรยากาศ ที่ชวนสยองขวัญ ตามแบบหนังสยองยุค 90’s ภาคต่อมา โดยเฉพาะภาค 3 ที่ดูไปคิดไป ว่า มันจะทำออกมาทำไม  หนังขาดเสน่ห์อย่างแรง ทั้งการสร้างบรรยากาศ และการเดินเรื่อง ถึงแม้ ดาราจะหน้าตาสวยและสะบึ้ม กว่าเดิม ก็ไม่สามารถช่วย ดึงดูดผมไปจากความน่าเบื่อของหนังได้
   หนังผี Candyman แคนดี้แมน ฉบับปี 2021 เป็นภาพยนตร์ที่ถูกนำมา Remake ใหม่อีกครั้ง จากต้นฉบับที่เต็มไปด้วยความคลาสสิก แต่ก็ถือว่าการนำมาสร้างใหม่ในคราวนี้จะสามารถทำออกมาได้ดีไม่เบา เพราะแคนดี้แมนเองก็ดูน่ากลัวและอันตรายต่อคนที่กล้าเรียกชื่อของมันอย่างมากเลยทีเดียว
            การเล่าเรื่องราวของหนังผี Candyman แคนดี้แมน ตรงประเด็นและมีความชัดเจนมาก ในเรื่องแถมจะไม่เห็นฉากเร้าอารมณ์ทที่เต็มไปด้วยความลึกลับแบบให้คอยลุ้นว่าแคนดี้แมนจะโผล่หรือไม่โผล่ออกมา แต่ถ้าเรียกหาเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะสถานที่ใด เวลาไหน เขาก็พร้อมที่จะโผล่ออกมาจัดการเหล่าคนใจกล้าแบบอำมหิตสุด ๆ
            นักแสดงเองก็สามารถทำผลงานออกมาได้อย่างน่าทึ่งทั้งสีหน้าและแววตา พวกเขาสามารถสร้างความตึงเครียดให้กับเรื่องราวได้โดยที่แทบไม่ต้องใช้ SFX ช่วยเลย และยิ่งเวลาผ่านไป เรื่องราวได้รับการเปิดเผยมากขึ้น หนังเรื่องนี้ก็ไขกระจ่างปมปริศนาไม่ปล่อยให้คนดูต้องค้างคาแต่อย่างใดอีกด้วย
            ประเด็นที่แฝงเอาไว้ในหนังผี Candyman แคนดี้แมน เองก็ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการเหยียดและใช้ความรุนแรงกับคนผิวสีโดยปราศจากเหตุผลของคนผิวขาวที่เป็นประเด็นเรื้อรังฝังรากลึกมาอย่างยาวนานในประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่อดีตมาจนถึงถึงปัจจุบัน ทำให้มันกลายเป็นหนังที่มีการวิพากษ์สังคมได้อย่างน่าสนใจเรื่องหนึ่ง
            ในส่วนของจุดด้อย หนังผี Candyman แคนดี้แมนดูเหมือนจะพยายามเล่าทุกอย่างเป็นตำนานและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตมากไปสักหน่อย ทำให้บางครั้งพาลคิดไปว่ากำลังนั่งดูภาพยนตร์สารคดีอยู่ พอรู้ตัวอีกทีหนังก็จบลงเสียแล้ว!? และตัวตนเหนือธรรมชาติอย่างแคนดี้แมน ดูเหมือนว่าจะมีสติในการเลือกเป้าหมายแบบระบุตัวตนมากไปเสียหน่อยเลยดูไม่ค่อยสมเหตุผลนัก
โดยรวมแล้วหนังผี Candyman แคนดี้แมน น่าดูหรือเปล่า!?
            สำหรับผู้เขียนหนังผี Candyman แคนดี้แมน ฉบับปี 2021 ได้ยกระดับความน่ากลัวและความอันตรายของผีนักฆ่าให้มากขึ้นกว่าต้นฉบับเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในส่วนของความลึกลับสยองขวัญอาจจะลดลงบ้างเนื่องจากหนังเน้นไปที่ความรุนแรงที่มันสามารถทำต่อเหล่าผู้ท้าทายได้ก็ตาม แต่ก็ถือว่ามันยังคงยอดเยี่ยมอยู่ดี
            ถึงแม้ว่าหนังผี Candyman แคนดี้แมนจะได้รับคะแนนโดยรวมไม่ค่อยมากนักจากองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้น แต่เชื่อว่าหนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นหนังผีที่น่าดูเรื่องหนึ่ง ที่อยากให้เก็บเอาไว้ในรายการชวนดูอันดับต้น ๆ ที่จะช่วยให้เห็นถึงความเชื่อด้านผีสางในวัฒนธรรมตะวันตกของคนผิวสีที่เรียกได้ว่าแตกต่างจากผีร้ายในบ้านเราอย่างมากเลยทีเดียว
ดูหนังใหม่ได้ที่ ดูหนังใหม่
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ facebook 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *