รีวิว Braveheart

 

รีวิว Braveheart

หนังรางวัลออสการ์ รีวิว Braveheart หยุดไม่ได้เลย กับหนังแนวนักรบแบบนี้ คือแอดมินชอบหนังประวัติศาสตร์นะ แต่ว่าอันนี้ทำให้แอดชอบหนัง แนวบู้ บุก ลุย ไปซะแล้ว หนังเก่าแต่ คุณภาพสุดยอดลองรับชอบดูนะครับ ยุค 90s มีนักแสดง 2 คนที่หันมาลองงานผู้กำกับ แล้วก็กลายเป็นการสร้างเกียรติประวัติบนเวทีออสการ์ คนแรกคือ เควิน คอสต์เนอร์ พระเอกตลอดกาลที่หันมาประเดิมงานผู้กำกับครั้งแรกใน Dances with Wolves ปี 1990 หนังเข้าชิงออสการ์ถึง 12 รางวัล แล้วคว้าไปได้ 7 รางวัล รวมไปถึงรางวัลใหญ่อย่าง ผู้กำกับยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นับเป็นการประเดิมงานกำกับครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
เมล กิบสัน ในมาดผู้กำกับ
ผ่านพ้นมา 5 ปี พระเอกฮอลลีวูดอีกคนก็ไปสร้างเกียรติประวัติบนเวทีออสการ์อีกครั้ง ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022 และครั้งนี้เป็นทีของ เมล กิบสัน พระเอกหนังแอ็กชันที่สร้างชื่อมาจาก Mad Max และ Lethal Weapon เมล กิบสัน เคยประเดิมงานกำกับมาแล้วในหนังเล็ก ๆ อย่าง The Man Without a Face เว้นช่วงไป 2 ปี เขาก็อาจหาญกับงานสเกลใหญ่อย่าง BraveHeart หนังเอปิกย้อนยุคที่ใช้ทุนสร้างถึง 70 ล้านเหรียญ ซึ่งก็นับว่าสูงมากแล้วในยุคนั้น และเขาก็ไม่ทำให้นายทุนผิดหวัง เมื่อหนังกวาดรายได้ทั่วโลกไปมากถึง 213 ล้านเหรียญ และที่สำคัญหนังสร้างชื่อด้วยการเข้าชิงออสการ์มากถึง 10 รางวัล และคว้ามาสำเร็จได้ 5 รางวัล ซึ่งก็รวมถึง 2 รางวัลใหญ่อย่าง ผู้กำกับยอดเยี่ยม ตกเป็นของ เมล กิบสัน และ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ผ่านมา 25 ปี เมล กิบสัน ก็ยังพยายามรักษาคุณภาพในผลงานกำกับของเขาตลอดมา เขามีผลงานกำกับหลังจาก BraveHeart อีกแค่ 3 เรื่องเท่านั้น แล้วทุกเรื่องก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์
The Passion of the Christ (2004) เข้าชิง 3 รางวัล
Apocalypto (2006) เข้าชิง 3 รางวัล
Hacksaw Ridge (2016) เข้าชิง 6 รางวัล คว้ามาได้ 2 รางวัล
ผลงานกำกับของ เมล กิบสัน ยังคงได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากบรรดานักวิจารณ์ แต่ก็ยังไม่มีผลงานเรื่องไหนที่มีคุณภาพเทียบเคียงได้กับ BraveHeart ที่ภาพและเนื้อหายังคงอยู่ในใจผู้ชมตลอดมา หลาย ๆ ช็อตจากหนังก็ยังคงพบเห็นได้บนโลกออนไลน์ ทั้งการเอามาล้อเป็น Meme หรือการหยิบถ้อยคำปลุกใจของ วิลเลียม วอลเลซ มาทำเป็น Quote ที่น่าจดจำจากหนัง
รีวิว Braveheart
ผลงานกำกับเรื่องต่อไปของเขาคือ The Wild Bunch เป็นการรีเมกหนังคาวบอยคลาสสิกเมื่อปี 1969 รอบนี้เขาจะได้กำกับ เจมี่ ฟอกซ์, ปีเตอร์ ดิงค์เลก และ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ หนังมีกำหนดฉายปี 2022 เชื่อว่าจะต้องเป็นหนังคาวบอยที่เลือดกระฉูด อันเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในทุกเรื่องที่ เมล กิบสัน กำกับ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง
วิลเลียม วอลเลซ ไม่เคยคิดจะเป็นผู้นำการรบเพื่อเอกราชของแผ่นดินเกิดของเขา แต่ชะตาชีวิตเป็นเรื่องประหลาด…
รีวิว Braveheart
เวลานั้นสกอตแลนด์แผ่นดินเกิดของเขา ถูกกษัตริย์เอ็ดเวิร์ด หรือฉายา ลองแชงก์ส ผู้โหดเหี้ยม รุกรานและปกครอง ลองแชงก์สลวงชาวสกอตกลุ่มต่าง ๆ ให้มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดอนาคตของพวกเขา แล้วสังหารทั้งหมด พ่อกับพี่ชายของวิลเลียมอยู่ในกลุ่มผู้ถูกฆ่า เขากลายเป็นเด็กกำพร้าในชั่วข้ามคืน ลุงพาเขาไปอยู่นอกอาณาจักรอังกฤษ ที่นั่นเขาเรียนหนังสือ วิชาการต่าง ๆ ภาษา และการยุทธ์
ราวยี่สิบปีต่อมา วิลเลียม วอลเลซ หวนกลับแผ่นดินเกิดอีกครั้ง เขาตกหลุมรักกับเพื่อนวัยเด็กนาม เมอร์รอน ทั้งสองแต่งงานกันลับ ๆ เพราะกฎหมายของอังกฤษในเวลานั้นให้ขุนนางอังกฤษที่มาตั้งรกรากในสกอตแลนด์ได้รับสิทธิพิเศษที่เรียกว่า Primae Noctis โดยหลับนอนกับเจ้าสาวทุกคนในคืนแรกของพิธีวิวาห์ จุดประสงค์ของลองแชงก์สคือ ทำให้สายเลือดสกอตเจือจางลงจนสลายไป!
วันหนึ่งทหารอังกฤษคนหนึ่งพยายามจะข่มขืนเมอร์รอน นางต่อสู้ วิลเลียมช่วยนางและทำร้ายทหารคนนั้น ทั้งที่รู้ว่าเป็นการรบกับทหารอังกฤษทั้งกองทัพ ทั้งสองคิดจะหนี แต่ไม่สำเร็จ เมอร์รอนถูกประหารโดยเชือดคอตาย โทษฐานที่บังอาจแตะต้องทหารอังกฤษ ด้วยหัวใจที่เปี่ยมแค้น วิลเลียมและพวกบุกโจมตีป้อมของทหารอังกฤษ สังหารทุกคนในนั้น และเชือดคอขุนนางอังกฤษแบบ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้กับกองทัพอังกฤษที่กินเวลานานหลายปี
นี่คือภาพยนตร์เรื่อง Braveheart (1995) อิงประวัติชีวิตของ วิลเลียม วอลเลซ นักรบกู้ชาติสกอตแลนด์ในศตวรรษที่ 13
หลังจากที่เขาทำลายป้อมทหารนั้นแล้ว ชาวสกอตกลุ่มต่าง ๆ ก็มาเข้าร่วมวงไพบูลย์กับ วิลเลียม วอลเลซ เป้าหมายคือร่วมกันต่อสู้ขับไล่กองทัพอังกฤษออกไป เมื่อนั้นเองที่วิลเลียมรู้ว่า เขามีหน้าที่ที่สำคัญกว่าเรื่องส่วนตัว เขาต้องกู้ชาติสกอตแลนด์ให้เป็นอิสระจากอังกฤษ
หลายกลุ่มไม่เชื่อว่างานนี้จะสำเร็จ แต่เขานึกถึงคำของพ่อก่อนที่จะจากไปตายว่า “หัวใจเจ้าเป็นอิสระ จงมีความกล้าหาญที่จะตามมันไป”
และหัวใจของเขาก็ตามความฝันแห่งอิสรภาพนั้น
การรบกับอังกฤษเป็นเรื่องยาก เพราะกำลังแตกต่างกันมาก แต่พวกเขาได้รับชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าวิลเลียมรู้ดีว่า จะรบชนะอังกฤษ จำต้องขอความช่วยเหลือจาก รอเบิร์ต เดอะ บรูซ ผู้มีสิทธิครองบัลลังก์สกอตแลนด์ หากชาวสกอตสามารถแยกตัวเป็นอิสระจากอังกฤษสำเร็จ
ในการรบกับกองทัพอังกฤษที่ฟัลเคิร์ก วิลเลียม วอลเลซ ถูกเพื่อนชาวสกอตรวมทั้ง รอเบิร์ต เดอะ บรูซ ทรยศ เขาบาดเจ็บและหนีไปได้หวุดหวิด และพบด้วยความจริงอันขมขื่นว่าการต่อกรกับศัตรูยากเย็นน้อยกว่าการรวมคนชาติเดียวกันเข้าด้วยกันเสียอีก เพราะคนแต่ละกลุ่มล้วนเอาประโยชน์ตัวตนก่อน ความแตกสามัคคีและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวทำให้ชาติล้มตั้งแต่ยังไม่ตั้งไข่
วิลเลียมตามฆ่าคนทรยศทีละคน แต่ในที่สุดเขาก็ถูกพวกเดียวกันลวงไปจับส่งให้พวกอังกฤษ เขาถูกคุมขังในหอคอยแห่งลอนดอน ตามมาด้วยคำสั่งประหารชีวิต
แต่นักรบเพื่ออิสรภาพไม่กลัวตาย เขากล่าวว่า “ทุกคนตาย แต่ไม่ทุกคนมีชีวิตอยู่จริง ๆ” ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย

รีวิว Braveheart

รีวิว Braveheart การประหาร วิลเลียม วอลเลซ กระทำในที่สาธารณะเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนที่คิดก่อการกบฏ ก่อนประหาร เขาถูกทรมานโดยการแขวนคอและผ่าท้อง ผู้คุมการประหารขอให้เขาเอ่ยคำขอความเมตตา เพื่อจะได้ยุติการทรมานและประหารโดยเร็ว
“แค่เอ่ยคำว่า ‘กรุณาเถอะ’ ความเจ็บปวดทั้งหลายของเจ้าก็จะมลายไป”
แต่เขาปฏิเสธ ถึงจุดหนึ่งเมื่อความเจ็บปวดจากการทรมานถึงขีดสุด วิลเลียม วอลเลซ ก็เอ่ยคำคำหนึ่งออกมา มันไม่ใช่คำว่า ‘กรุณาเถอะ’ คำที่เขาเปล่งเสียงตะโกนออกมาคือ “อิสรภาพ”
ผู้คุมจึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทรมานคนหัวใจเหล็กผู้นี้อีกต่อไป คมขวานถูกฟาดลงมา
จวบจนขณะลมหายใจสุดท้ายของชีวิต หัวใจของเขาปราศจากความกลัว มิใช่เพราะเขาเป็นยอดมนุษย์ แต่เพราะเขารู้ว่าเขากำลังทำเรื่องเพื่อส่วนรวมของแผ่นดินเกิดของเขา…
คำคมจากภาพยนตร์
“Every man dies, but not every man really lives.”
“ชายทุกคนต้องตาย แต่ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะได้ใช้ชีวิต”

เรื่องย่อ

รีวิว Braveheart ในศตวรรษที่ 13 ประเทศสก็อตแลนด์นั้นกำลังจะสูญเสียอิสรภาพให้กับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ของอังกฤษ วิลเลียม วอลเลซ ชายที่ทนรับต่อความกดขี่ไม่ได้ ประกอบกับที่ภรรยาของเขาถูกทำร้ายและโดนฆ่าตายโดนทหารอังกฤษ เขาเลยตั้งตนขึ้นมาเป็นผู้นำในการตั้งกองทัพ ที่จะขึ้นมาจับอาวุธเพื่อต่อต้านกับอังกฤษ จากการแก้แค้นส่วนตัวเลยนำมาสู่การต่อสู่เพื่ออิสรภาพ ด้วยสงครามครั้งใหญ่ที่ต้องแลกมากับเลือดเนื้อเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราช
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก
สำหรับ Braveheart นั้น เป็นหนังสงครามย้อนยุคในระดับ Epic อีกเรื่อง ที่สะท้อนความสามารถในการกำกับหนังของ Mel Gibson ได้เป็นอย่างดี จนได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากออสการ์มาครอง อีกทั้งบทที่ออกมาในสไตล์ละครที่ดูง่าย แต่กลับปลุกใจและความฮึกเหิมในใจคนดูได้เป็นอย่างดี แม้หนังอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบเนื้อหาที่ตรงตามประวัติศาสตร์ หรือไม่ชอบความรุนแรงสักเท่าไร แต่หากมองข้ามเรื่องราวเหล่านี้ไปได้แล้ว นับว่าเป็นหนัง Epic ที่ยิ่งใหญ่ดีเหลือเกิน ถ้าใครชอบหนังแบบย้อนยุคสุดยิ่งใหญ่อย่าง Gladiator, The Patriot หรือ Kingdom of Heaven แล้ว Braveheart ก็อยู่ในตระกูลชุดนี้เลย
หนังมีความครบเครื่องทุกองค์ประกอบในหนังสงครามมาก นับตั้งแต่ต้นสายปลายเหตุของหนังก็ดูเป็นแรงจูงใจที่ดีที่นำไปสู่การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ มีการปูแรงจูงใจ และความคลั่งแค้นของตัวละครเอก จนเป็นพื้นฐานที่เสริมในส่วนสงครามในหนังได้เป็นอย่างดี ในฉากต่อสู้ต่างๆ นั้นก็อุดมไปด้วยความรุนแรง ดูเอามันส์ และอัดแน่นไปด้วยพลังอย่างเต็มเปี่ยม แม้ว่าตัวบทจะค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ อีกทั้งยังโดนคนดูสับในเรื่องของการใส่สีตีไข่แต่งเติมเข้าไปเยอะ เพื่อความบันเทิง แต่ก็ทำให้มันเข้ากับหนังได้เป็นอย่างดีในการลากเรื่องราวไปถึงความพีคในตอนท้าย ดูหนังออนไลน์2022
 ด้วยความที่ปรับเปลี่ยนเนื้อหาเยอะก็อาจจะเป็นข้อดี ในการสร้างจังหวะหนังให้ออกมาดึงอารมณ์ให้คนดูได้อยู่มาก ให้เรามีอารมณ์ร่วม ให้เราอยากเชียร์ให้ฝั่งตัวเอกชนะอำนาจเผด็จการไปด้วยกัน อีกส่วนที่ดีงามของก็คือดนตรีประกอบจากฝีมือของ James Horner ที่ดูปลุกเร้าซะเหลือเกิน จนทำให้แม้บทหนังจะธรรมดา แต่พลังที่หนังส่งมาให้ และการบิวท์ขั้นสุด ก็ทำให้คนดูอินไปจนต้องเสียน้ำตาให้กับหนังไม่ยากเลย หากใครที่ไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์ที่สมจริงแล้ว นี่คือหนังสงครามอีกเรื่องที่ควรมาก ด้วยรางวัลออสการ์ถึง 5 รางวัลในปีนั้น แถมยังมีรางวัลใหญ่อย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม ก็มั่นใจได้เลยว่าของเขาดีจริง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *