รีวิว คิงคอง 2005

รีวิว คิงคอง 2005

รีวิวหนัง คำเตือน : รีวิวนี้มี แอดบี ได้สปอยเยอะพอสมควร ฉะนั้นกรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะ และใครที่ยังไม่เคยดูหนังมาก่อน ผมก็แนะนำให้หามาดูนะครับ หรือถ้าใครขี้เกียจดูก็ข้ามไปอ่านสรุปผมได้เลย ไม่ว่ากันนน วันนร้อยู่กับหนัง คิงคอง2005 นั้นเอง เรื่องจะเป็นยังไงไปอ่านรีวิวกัน
รีวิว คิงคอง 2005
ผมชอบคองนะครับ ชอบมาตั้งแต่เด็กละ ตัวละครนี้คลาสสิคมากๆ มาก พูดถึงแล้วใครๆ ก็รู้จัก ผมเคยดูหลายเวอร์ชั่นนะครับ ทั้งของ Jessica Lange และภาคอื่นๆ (จำมิได้) แต่รู้สึกว่าตอนเด็กผมจะดูภาคนี้บ่อยสุด เพราะมันสนุกมากครับ ขนาดช่วงคุยกันแรกๆ ผมยังชอบเลย ปกติถ้าดูอะไรที่มันคุยกันเยอะๆ ผมจะเบื่อครับ แต่เรื่องนี้กลับดูน่าสนใจเฉย และผมก็ลองกลับมาย้อนดูใหม่หลังจากไม่ได้ดูมานาน ปรากฏว่าผมชอบมากกว่าเดิมครับ

รีวิว คิงคอง 2005

รีวิว คิงคอง 2005

 

เรื่องย่อ
     แอนน์ แดร์โรว (Naomi Watts) ผู้หญิงติดดินธรรมดาๆ คนหนึ่งที่พึ่งจะตกงานไปหมาดๆ แล้วเธอก็ไปพบกับคาร์ล แดนั่ม (Jack Black) ผู้กำกับหนังที่กำลังตกอับและต้องการหานางเอกไปเล่นหนังของเขา แอนน์ได้ตอบตกลง และได้เดินทางไปถ่ายทำหนังของเขาที่สิงคโปร์
แต่หารู้ไม่ว่าการเดินทางครั้งนี้จะเป็นการเดินทางที่เธอไม่อาจลืมเลือน ต้องบอกก่อนเลยว่ามันเหนือความคาดหมายทุกอย่างเลยครับ ทั้งบท เนื้อเรื่อง นักแสดง CG ทุกอย่างมันเป๊ะมากครับ เป๊ะโคตรอ่ะ! จุดแรกที่ผมชอบมากเลยก็คือบทหนังครับ ปกติเราก็จะหวังไว้อยู่แล้วครับว่า “แอ้ะ!
หนังสัตว์ประหลาด บทป่วยแน่นอน” เพราะผมมักจะผิดหวังกับบทหนังสัตว์ประหลาดถล่มเมืองครับ เช่น Independence Day: Resurgent ที่ตรรกะและก็ไดอาล็อคต่างๆ ของหนังพังมาก และก็ Godzilla (2014) ด้วยครับ เอาจริงๆ บทมันก็ไม่ได้แย่หรอก แต่ผมผิดหวังในส่วนบทของก็อตจิที่ออกมาน้อย หรือแม้กระทั่งหนังที่คนหลายคนชอบอย่าง Pacific Rim ผมก็ไม่ชอบบทครับ มันดูไม่ค่อยสุดยังไงไม่รู้

ความรู้สึกหลังดูจบ

     แต่เรื่องนี้กลับเกินคาดครับ ตัวละครแต่ละตัวถูกเขียนออกมาได้มีน้ำหนักเท่ากัน เอาจริงๆ ผมจำชื่อและก็เรื่องราวของทุกตัวละครได้หมดเลยนะ ยกตัวอย่างตัวละครจิมมี่ (Jamie Bell) ครับ คือแกจะเป็นเด็กที่เกรี้ยวกราดมาก ไม่ค่อยเชื่อฟังผู้ใหญ่ เพราะแกอยากจะพิสูจน์ให้เฮย์สได้เห็นครับ ว่าแกสามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ สังเกตุจากฉากที่จิมมี่พยายามจะหลบหน้าเฮย์สครับ แต่ในที่สุดเฮย์สก็จับได้และก็ยึดปืนมาจากจิมมี่ แต่จิมมี่ก็เถียงกลับ
“ตอนที่พวกทหารให้ปืนคุณ คุณอายุยังไม่ถึงผมด้วยซ้ำ” ฉากนั้นมันจี๊ดมากครับ ผมสามารถสัมผัสถึงความเป็นลูกผู้ชายของจิมมี่ได้ด้วยประโยคที่เขาพูดถัดมาว่า “ผมแค่อยากช่วยมิสซิสแดร์โรว” แล้วเฮย์สก็ให้ปืนกับเขาไปครับ เพราะเฮย์สเห็นความกล้าในตัวเขามากพอที่จะกล้าจับปืน รู้มั้ยครับ แค่ฉากนี้ความยาวไม่ถึง 1 นาที ผมสามารถเข้าถึงตัวละครตัวนี้ได้ลึกซึ้งมาก โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก
แต่ที่แปลกก็คือ ตัวละครที่ผมว่ามามันเป็นแค่ตัวละครประกอบครับ ไม่ใช่ตัวเด่นแต่อย่างใดขนาดไม่ใช่ตัวละครเด่น ผู้เขียนบทยังใส่ใจเลยครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปห่วงตัวละครหลัก ตัวละครหลักเรื่องราวเยอะกว่าตัวละครจิมมี่ที่ผมว่ามาอีกครับ ตัวละครหลักที่ผมอยากจะพูดถึงมากๆๆๆๆๆ ก็คือแอนน์ นางเอกของเราเนี่ยแหละครับ
     เธอเป็นสาวสู้ชีวิตครับ เธอรักในอาชีพแสดงโชว์ตลกของเธอ รักจนมันฝังเข้าไปในดีเอ็นเอของเธอแล้ว
เพราะฉะนั้นงานคือชีวิตของเธอครับ จนถึงเมื่อกิจการงานที่เธอทำมันเดินทางมาถึงจุดจบ เธอก็แทบจะเข่าทรุดครับ คนรอบข้างเธอก็จะแยกตัวไปทำมาหากินตามภูมิลำเนาบ้านเกิดเมืองนอนเขา ทีนี้แอนน์ก็ต้องเลี้ยงชีพตัวคนเดียวครับ แต่ก็ยังคงรักษาศักดิ์ศรีของเธอไว้ ขนาดมีคนเสนอให้เธอไปเต้นเปลื้องผ้าเพื่อแลกเงิน เธอยังไม่ไปเลยครับ นั่นแสดงว่าเธอเห็นคุณค่าในตัวเองอยู่และก็มีสติพอที่จะหางานทำเองได้ และเมื่อเธอได้พบเจอกับแดนั่ม ผู้กำกับหนังที่ต้องการหานางเอกที่จะมาเล่นหนังของเขา แล้วเธอก็ตกลงรับเล่นครับ เพราะบทที่เธอต้องรับก็คือบทที่เขียนขึ้นมาโดยแจ็ค ดริสคัล นักเขียนที่เธอชื่นชอบมาโดยตลอด คราวนี้ก็เข้าทางครับ งานดี ไม่ต้องออกแรงมาก แถมได้ใกล้ชิดกับนักเขียนคนโปรดด้วย แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นความรักจากการร่วมงานกันของสองคนนี้
     ไม่น่าเชื่อครับว่าหนังสัตว์ประหลาดตัวละครคนจะมีเรื่องราว ที่ผมร่ายยาวมาขนาดนี้ ผมจะบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นดราม่าก็ได้ครับ เพราะในส่วนผจญภัยนั้นมันเป็นแค่ทางผ่านของเนื้อเรื่องและก็ใส่มาเพื่อคนดูจะได้ไม่เบื่อแค่นั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ผมว่าส่วนผจญภัยเป็นส่วนที่ดูสนุกน้อยที่สุดในเรื่องแล้วนะ เพราะมันไม่ค่อยตื่นเต้นอ่ะครับ มันดูไร้ความน่าสนใจยังไงไม่รู้ ตรงนี้ผมพูดถึงด้านแอคชั่นนะครับ ผมว่าแอคชั่นมันไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่ แถมดันเอาตัวละครที่ปูมาดีมาฆ่าตายซะงั้น แต่ก็อภัยให้ได้ครับเพราะตัวละครที่ตายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ แต่ที่ผมประทับใจมากกว่างานแอคชั่น ก็คือความสัมพันธ์ของแอนน์กับคองครับ
     ถ้าส่วนนี้ทำออกมาได้ไม่ดี ความยอดเยี่ยมของหนังนี่หายไปประมาณ 90% ครับ เพราะถ้าเล่าเรื่องไม่อินหรือไม่มีอารมณ์ร่วม หนังจะดูไร้ค่ามากครับ แต่ตรงนี้ผมขอชื่นชม Peter Jackson ด้วยแหละ ที่ทำให้ตัวละครคองเป็นตัวละครที่เป็นผู้เป็นคนมาก มันมีเลือดมีเนื้อเหมือนมนุษย์เราเนี่ยแหละครับ มันรักบ้านเกิด มันหวงอาณาเขตของมันมาก ใครเข้ามาชีวิตนี่หาไม่เลยอ่ะ แต่ที่มันทำไปมันก็มีเหตุผลครับ ที่มันตะโกนใส่แอนน์ตอนแอนน์จะหนี นี่ก็เพราะว่ามันนอยครับที่ขนาดมนุษย์ตัวเล็กๆ ยังไม่รักมัน แล้วมันจะมีค่าอะไร นั่นคือสาเหตุที่มันหนีแอนน์ครับ แล้วก็ไประบายอารมณ์ใส่พวกที่มาช่วยแอนน์ แต่พอที่แอนน์ตกอยู่ในอันตราย มันก็แทบจะสู้จนสุดชีวิตเพราะปกป้องคนรัก (ตรงนี้ขอเพิ่มนิดนึง ฉากที่สู้กับที-เร็กซ์สามตัวเป็นหนึ่งในฉากแอคชั่นที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา) พอช่วยแอนน์เสร็จมันก็งอนครับ (สัตว์งอนคน?) พอมันงอนแอนน์ก็ง้อครับ แล้วก็ง้อสำเร็จด้วย ตรงนี้เล่นเอาผมยิ้มบานไม่หุบเลย น่ารักจริงๆ
     พอถึงช่วงที่แจ็คจะมาช่วยแอนน์ คองก็ปกป้องคนรักไว้สุดชีวิตครับ แต่ก็พลาดท่าจนแดนั่มจับตัวมาทำโชว์ที่นิวยอร์ค พอคองได้สติมันก็อาละวาดใหญ่ ตรงนี้ผมก็หวังว่ามันจะเหมือนหนังสัตว์ประหลาดทั่วไป แต่ที่ไหนได้ มันเกินคาดอีกแล้วว่ะ!
     ที่มันอาละวาดไม่ใช่อะไรครับ มันก็แค่ตามหาสิ่งที่มันรักแค่นั้น สังเกตุว่ามันมัวแต่หาผู้หญิงที่เหมือนแอนน์ พอไม่ใช่มันก็หาไปเรื่อยๆ แล้วสีหน้ามันดูหวาดกลัวมากกว่าโมโหอ่ะครับ ขนาดเสียงหายใจยังสัมผัสถึงความตระหนกได้เลย ไม่แปลกใจครับที่หนังกวาดรางวัลออสการ์มาถึง 3 รางวัล (หนึ่งในนั้นก็คือ Best Sound Mixing) แล้วพอมันเจอแอนน์ ทุกอย่างกลับเป็นปกติครับ ไม่มีอาละวาด ไม่มีทุบรถ ไม่มีพังตึก แค่สัตว์กับคนเดินด้วยกันในถนนเปลี่ยว แล้วภาพมันสวยมาก สวยโคตรอ่ะครับ ดนตรีนี่ก็โรแมนติกมาก แล้วพอมาถึงฉากลานไอซ์สเกต ผมนี่แอบร้องไห้ออกมาด้วยครับ มันงดงามมากจริงๆ แล้วก็มาร้องไห้น้ำตาแตกตอนที่คองโดนยิงตกตึกตาย แล้วสีหน้าของนักแสดงคนกับนักแสดง MoCap มันสุดยอดมากครับ สีหน้าของแอนน์นี่น่าสงสารมาก ส่วนคองก็สุดยอดมากเช่นกันครับ คือดูสีหน้าแล้วก็รู้อ่ะว่าไม่ไหวแล้ว พร้อมที่จะจากไปแล้วแต่ก็จะมองหน้าคนรักเป็นครั้งสุดท้าย ช็อตนี้ผมนี่อยากจะอกแตกตายไปกับคองเลยครับ มันสงสารมากอ่ะ ไม่น่ามาเสียชีวิตเพราะความโลภมากของแดนั่มเลย มันอยู่ป่ามันดีๆ ดันไปจับมา แถมดันให้มันตายในเมืองที่ไม่คุ้นด้วยนะ เป็นผมถ้ามีโอกาศผมจะกระทึบไอ้หมอนี่ให้ตายคาที่อ่ะ ถ้ามันไม่ตายก็อยากให้มันรู้ว่ามันเลวขนาดไหน (อินจัด555) ที่ว่ามาทั้งหมด บอกเลยครับว่า Peter Jackson คุมหนังได้อยู่หมัด ดูหนังฟรี
     นักแสดงนี่หายห่วงอยู่แล้วครับ ฟังแค่ชื่อก็รู้ทันทีว่าการันตีฝีมือ Naomi Watts นี่ระดับไหนแล้วอ่ะ ไปเรื่องไหนก็มีแต่คำชม และต้องขอบอกเลยครับว่าการแสดงของเธอแทบจะแบกหนังไว้ทั้งเรื่อง และก็คนที่อยากจะพูดถึงมากๆๆๆๆๆๆๆ ก็คือลุง Andy Serkis ที่มาเล่น Motion Capture ให้กับตัวคอง คนนี้นี่แทบจะเป็น God of MoCap แล้วครับ ขนาด War for the Planet of the Apes แกยังเล่นได้ดีอ่ะ เรื่องนี้คือต้องกราบงามๆ ในความเทพของพี่แกเลยครับ อะไรจะเก่งขนาดน้าานนนน แค่สองคนนี้เอาหนังอยู่ครับ ขณะที่คนอื่นก็พอส่งเสริมหนังได้ดีตามบทที่ได้รับ ส่วนงานโปรดักชั่นทำได้ยอดเยี่ยมครับ CG อะไรนี่ดีหมดอ่ะ (King Kong เป็นหนึ่งในหนังที่ซีจีสวยสุดสำหรับผมแล้วครับ) ดนตรีประกอบที่ประพันธ์โดย James Newton Howard นี่ก็ช่วยส่งเสริมอารมณ์ได้ดีครับ ยิ่งช่วงท้ายนี่ดนตรี 10 เต็ม 10 เลยครับ
สรุป
ประทับใจครับ ประทับใจสุดๆ นี่เป็นหนังสัตว์ประหลาดที่ผมรักมากที่สุดละ หนังลงตัวทุกด้าน
ไม่ว่าจะเป็นบท การแสดง เสื้อผ้าหน้าผม CG ดนตรีประกอบ ดีหมดครับ
ดูหนังใหม่ได้ที่ ดูหนังใหม่
ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ facebook 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *